ทำไมลดน้ำหนักแล้วไม่ผอม? และเรื่องเล็กๆนี้คือคำตอบ

ออกกำลังมาก็นานแล้ว แต่ทำไมนะ น้ำหนักหายไปแค่นิดเดียวเอง บางทีอาจจะเป็นเพราะข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ ดูอย่าง Eva Mendes สิ นางอายุ 37 แล้ว ยังสวยอยู่เลย เพราะเข้า-ออก ฟิตเนสแทบทุกวัน แถมออกกำลังกายหลายแบบผสมกันด้วย

การออกกำลังกายด้วยความเร็วจะเบิร์นแคลอรีได้มากกว่าก็จริง แต่ถ้าเร็วเกินไปก็จะทำให้ฟอร์มตกในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน ยอมลดความเร็วลงหน่อย แต่คงที่และโฟกัสไปที่ท่าทางการออกกำลังที่ถูกต้อง คุณจะรู้สึกออกกำลังกายได้สบายขึ้น เพราะร่างกายสามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น นอกจากนี้ หากคุณเล่นเวตก็ควรจะยืนเล่น เพราะร่างกายจะเผาผลาญได้ดีกว่านั่งเล่น

หากคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะทำให้เซลล์ทำงานได้ไม่เต็มที่ในขณะออกกำลังกาย ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเร็วขึ้นและล้ากว่าที่เคย นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังเมื่อขาดน้ำน้อยกว่าการได้ดื่มน้ำ จึงทำให้เกิดการเผาผลาญน้อยกว่า ดังนั้น ก่อนออกกำลังสัก 1-2 ชั่วโมง ควรจิบน้ำให้เพียงพอ และจิบเรื่อยๆ ตลอดการออกกำลังกาย

เพราะเมื่อคุณจดจ่อกับการอ่านแล้ว คุณก็จะใส่ใจกับการออกกำลังได้น้อยลงจนอาจจะวิ่งได้ไม่หนักพอที่จะเบิร์นแคลอรีให้มากอย่างที่ต้องการ ส่วนการฟังเพลงนั้นไม่ดึงความสนใจเท่า นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่คอนเฟิร์มว่า หากเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ จะสามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย

มีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองชอบออกกำลังแบบไหน เพราะหากคุณไม่ชอบก็จะหาเรื่องบ่ายเบี่ยงได้เสมอ ลองคิดเล่นๆ ดูว่า หากคุณหยุดออกกำลังสัปดาห์ละครั้ง แต่ละครั้งเบิร์นได้ 300 แคลอรี ก็เท่ากับว่าคุณพลาดการเบิร์นไปถึง 1,200 แคลอรีต่อเดือน หรือเกือบ 2 กิโลกรัมต่อปีเชียวนะ

แม้การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดี แต่ถ้าอยากผอมเร็วๆ ก็ต้องทำคาร์ดิโอสลับกับยกน้ำหนัก มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า ผู้ที่ออกกำลังกายในแบบดังกล่าวจะกินน้อยกว่าผู้ที่คาร์ดิโออย่างเดียว 517 แคลอรีต่อวัน เนื่องจากระดับฮอร์โมนจะสมดุลขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดจะคงที่ คุณจึงรู้สึกอิ่มนานขึ้น

คราวหน้าคราวหลังถ้ามีใครชวนไปออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก อย่าเผลอทำสิ่งเหล่านี้นะ ไม่งั้นน้ำหนักไม่ลดลงแน่ๆ

ที่มา : senesouk.com