ทำไมยาลดความอ้วนถึงอันตราย (คลิป)

เชิญรับชมคลิปวิดีโอ
vvvv
vvv
vv
v

ทำไมยาลดความอ้วนถึงอันตราย (คลิป)

เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนเป็นที่สนใจมากขึ้น   อาจเพราะคนเราอยากผอมอยากหุ่นดี แต่ก็ยังอยากกิน แถมขี้เกียจออกกำลังกายอีกต่างหากก็เลยต้องหาตัวช่วย  สมัยหนึ่งมีอาหารเสริมลดความอ้วนออกมาขายแต่ก็ขายไม่ค่อยดี เพราะอาหารเสริมพวกนี้ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ปัจจุบันยิ่งมีมากมายหลายยี่ห้อมากขึ้นและอวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถน้ำหนักหนักได้ 8 โลใน 1 เดือนบ้าง  หรือบางทีลดได้ถึง 12 โลในหนึ่งเดือน  และอาหารเสริมลดความอ้วนพวกนี้มักจะใช้ดาราที่เป็นที่รู้จัก  ทำเป็นสคู้ปโฆษณาสินค้าในทีวีกันอย่างโจ่งแจ้งไม่กลัวบาปกรรม  มานั่งเล่าสรรพคุณและความเด็ดดวงของผลิตภัณฑ์ว่าเยี่ยมยอด  ลดได้จริง  ลดน้ำหนักได้รวดเร็ว  ลดน้ำหนักได้เยอะ   ไม่มีโยโย่   ผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น  นำเข้าจากเกาหลี  ได้รับอย.  อย.รับรองความปลอดภัย  สูตรของแพทย์   ได้รับลิขสิทธิ์จากแพทย์   สูตรลับเฉพาะ ฯลฯ แล้วแต่จะสรรหามาอ้างกัน   

เพื่อให้ได้ผลจริงบางผลิตภัณฑ์ก็แอบเอายามาปน  แม้โดนจับไปบ้างแต่ก็อาจเหลืออยู่อีกมาก  ซึ่งอันตรายจริงๆ  เพราะว่าคนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักเกินส่วนหนึ่งไม่ใช่คนที่แข็งแรงพอที่จะทนกับผลข้างเคียงของยาได้  แถมบางคนมีโรคประจำตัว (ซึ่งอาจรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม)  เช่นโรคความดัน โรคเบาหวาน โรคลมชัก หรือโรคต่อมไธรอยด์เป็นพิษ ฯลฯ  ถ้ากินยาพวกนี้อาจช็อกตายไปเลย  เพราะฉะนั้นผู้บริโภคต้องเข้าใจถึงอันตรายของยาช่วยลดน้ำหนัก และต้องระวังการใช้  และถ้าจำเป็นต้องใช้ควรปรึกษาแพทย์  

การลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ควรถือหลัก 3 อ. คือ อาหาร  ออกกำลังกาย และอารมณ์ 
อาหาร  การควบคุมอาหารให้พอเหมาะกับกิจกรรม หรืองานที่เราต้องทำต่อวัน  ไม่กินมากเกินไป  
ออกกำลังกาย   เพื่อเผาผลาญและใช้พลังงานและไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
อารมณ์ คือมีความตั้งใจจริง  ที่ต้องการหุ่นดีมีเอว  มีความมุ่งมั่น  
(ผมเองใช้ 3 อ.นี้สามารถลดน้ำหนักได้ 9 โลกว่าใน 1 เดือนสบายๆ)


เรื่องผลของยาที่เขียนนี้เป็นผลของยาแบบทั่วๆไปที่เจอได้บ่อย   คนที่มีโรคประจำตัวหรือกินยาอะไรอยู่เป็นประจำควรหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะใช้ยาพวกนี้ด้วยครับ  /  หรือถ้าจะกินอาหารเสริมลดความอ้วน ควรคิดสักนิสว่าอาจมียาพวกนี้ปนอยู่ก็ได้นะ


ยาช่วยขับถ่ายในกลุ่มที่ทำให้ลำไส้บีบตัว
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา: ช่วยระบาย  / ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
ยากลุ่มนี้จะกระตุ้นให้มีการขับถ่ายอุจจาระ  โดยเพิ่มการบีบตัวของลำไส้   ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจทำให้เกลือแร่ในเลือดผิดปกติ  ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ ก็ยิ่งทำให้เกลือแร่ในเลือดผิดปกติมากขึ้นไปอีก เกิดอาการอื่นๆตามมาอีกมายมาย เช่นมีนงง  ปวดศีรษะ  อาเจียนอย่างรุนแรง  ใจสั่นผิดปกติ   มีอาการชัก และหมดสติ เป็นต้น
ส่วนคนที่อุจจาระแข็งมากถ่ายยากอยู่แล้ว  การใช้ยาในกลุ่มนี้จะทำให้ลำไส้บีบตัวหนัก  มีอาการปวดท้องมากขึ้นไปอีก  ยานี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่มีความดันโลหิตสูงๆ  


ยาขับปัสสาวะ
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา: ช่วยระบาย  / ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
ยาขับปัสสาวะจะดึงน้ำออกจากร่างกายขับถ่ายออกเป็นปัสสาวะ  แต่ยาพวกนี้บางอย่างมันไม่ได้แค่ดึงน้ำอย่างเดียว  แต่ดึงเอาเกลือแร่ที่สำคัญออกไปด้วย  ถ้าใช้ต่อเนื่องจะทำให้เกิดภาวะสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ(โปแตสเซียมต่ำ)  และถ้าร่วมกับการกินยาถ่ายอุจจาระต่อเนื่องก็ยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก มีอาการความดันต่ำลุกนั่งหน้ามืด  อาเจียน ชัก และหมดสติ


ยาลดการดูดซึมของไขมัน
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา: ลดการดูดซึมของไขมัน
ยาพวกนี้จะไปยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยไขมัน  ไขมันถูกย่อยไม่สมบูรณ์จึงไม่ค่อยดูดซึม และถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ  
พอไขมันดูดซึมได้น้อยลง  วิตามินที่ละลายในไขมัน A D E และ K ก็ถูกดูดซึมลดลงด้วย   
ถ้าใช้ยาต่อเนื่องจึงต้องระวังร่างกายขาดวิตามินดังกล่าว


ฮอร์โมนไธรอยด์
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา: เพิ่มการเผาผลาญ  / ขจัดไขมันส่วนเกิน
ฮอรโมนไธรอยด์ในร่างกายมีหน้าที่หลายอย่าง ที่สำคัญคือการเพิ่มเมตาโบลิซึมพื้นฐาน และเพิ่มเมตาโบลิซึมของโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต   หน้าที่ตรงนี้จึงมีคนเอามาใช้ในการลดน้ำหนัก  แต่ว่าฮอร์โมนนี้ยังไปกระตุ้นส่วนอื่นๆของร่างกายอีกมากมาย  ที่สำคัญที่สุดคือไปกระตุ้นหัวใจ  ทำให้หัวใจทำงานหนัก หัวใจเต็นเร็วและผิดปกติ   อาจเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด  และอาจเสียชีวิตได้  ผลข้างเคียงอื่นๆเช่น ทำให้รุ่มร้อนเหมือนมีไข้  มือสั่น กระวนกระวาย  นอนไม่หลับ  อาจมีอาการปวดศีรษะ  ชัก  และหมดสติได้ 
คนที่มีภาวะหัวใจ  มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ  โรคใจสั่น  ความดันโลหิตสูง  เป็นเบาหวานหรือลมชักห้ามใช้ยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์โดยเด็ดขาด เพราะอาจตายได้ง่ายๆ 


ยาทางจิตเวชในกลุ่ม SSRI
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา : ทำให้ไม่หิว  / ทำให้ไม่อยากทาน  / ช่วยปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ยาในกลุ่มนี้ออกฤิทธิ์โดยยับยั้งการดึงสารซีโรโทนินกลับ   ปกติยานี้ใช้ในการรักษาโรคทางจิตเวชหลายโรค  
แต่ผลข้างเคียงที่ค่อนข้างชะงักอันหนึ่งของยาในกลุ่มนี้คือ ทำให้เบื่ออาหาร  หรือถึงกินอาหารก็ไม่รู้สึกอร่อย    ซึ่งดูน่าจะดีในการควบคุมอาหาร แต่ว่าผลข้างเคียงอื่นๆยังมีอีกมากมาย เช่น คนที่เป็นโรคลมชักถ้ากินยาพวกนี้อาจจะชักเอาง่ายๆ   / อาจทำให้นอนไม่หลับ   ตัวสั่นมือสั่นใจสั่น  ปากแห้ง  หาวๆๆและหาวทั้งวัน  ที่สำคัญฤิทธิ์ยาทำให้ไม่อยากทำการบ้าน  ถึงทำไปการบ้านก็ไม่เสร็จคือไม่ถึงจุดสุดยอด  และที่น่ากลัวคือถ้ากินยากลุ่มนี้ร่วมกับยาบางตัวจะทำให้เกิดภาวะ Serotonin syndrome  หัวใจจะเต้นเร็ว  ตัวสั่นมือสั่นใจสั่น  ความดันโลหิตสูงขึ้น  ร่างกายร้อนรุ่มมีไข้สูง  โคม่า และตายได้  

ตัวอย่างยาที่ใช้ร่วมกับ SSRI แล้ว อาจทำให้เกิด Serotonin syndrome
- ยาในกลุ่ม MAOI - ยาทางจิตเวช  moclobemide, phenelzine, tranylcypromine 
- ยาใช้รักษาโรคพาร์กินสัน  selegiline 
- สีที่ใส่ในยา  เช่นใส่ในยาฆ่าเชื้อกระเพาะปัสสาวะบางยี่ห้อ ทำให้ปัสสาวะออกมามีสีฟ้า  หรือบางคนเรียกว่ายาล้างไต  methylene blue
- ยาแก้ไอ (แบบไอไม่มีเสมหะ) Dextromethorphan
- ยาแก้ปวดชนิดแรง Tramadol, Pethidine


ยาลดอัตราการเต้นของหัวใจ
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา : ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย /  ปรับสมดุลร่างกาย
ยาพวกนี้อาจรวมอยู่ในยาชุดลดน้ำหนัก  เพื่อลดอาการใจสั่นที่เกิดจากยาตัวอื่น  แต่ในความเป็นจริงแล้วยาตัวนี้อาจช่วยลดอาการได้บ้าง แต่ลดได้น้อยมากๆๆ  คือยังไงก็ยังมีอาการสั่นๆอยู่ดีนั่นแหละ  ยากลุ่มนี้จะออกฤิทธิ์กดหัวใจทำให้หัวใจเต้นช้าลง  ความดันโลหิตลดลง  อาจทำให้มีอาการหน้ามืด เป็นลมล้มได้   และยังมีผลยับยั้งการขยายตัวของถุงลม  
คนที่เป็นหอบหืดหรือถุงลมโป่งพองต้องระวังอย่างมาก  
คนที่เป็นโรคสะเกิดเงิน ยานี้อาจกระตุ้นให้ผื่นกำเริบขึ้นได้


ยานอนหลับ
สรรพคุณที่ใช้โฆษณา : ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย /  ปรับสมดุลร่างกาย
พ่อค้าหัวใส(แต่ใจบาป) บางคนเอายานอนหลับใส่เข้าไปในชุดลดความอ้วนด้วย เพราะว่ายาส่วนใหญ่ทำให้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย  ก็เลยเอายานอนหลับไปกินซะ จะได้หลับสบายๆ  (ยิ่งถ้ากินร่วมกับแอลกอฮอล์อาจทำให้หลับสบายยาวไปถึงชาติหน้า)  
แต่ว่าพวกยานอนหลับทำให้สมองไม่ปรอดโปร่ง  ซึมๆ  คิดอะไรไม่ค่อยออก  หายใจเบาและอาจติดขัด  ตัวสั่นมือสั่น  และในคนที่มีภาวะทางจิตเวชร่วมด้วยเช่นโรคซึมเศร้าอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ง่ายขึ้น  

ดังนั้นยาพวกนี้ควรหลีกเลี่ยงในคนที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร  คนที่มีความผิดปกติของปอด  คนที่เป็นโรคลมชัก และคนที่มีโรคทางจิตเวช เป็นต้น


ยา Sibutramine
เป็นยาในกลุ่ม SNRI ให้ผลคล้ายกับยาในกลุ่ม SSRI ซึ่งยาตัวนี้เคยถูกใช้เป็นยาลดความอ้วนที่ถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกามาแล้ว  แต่ปัจจุบันไม่ใช้แล้วทั้งในสหรัฐและประเทศไทย  เนื่องจากมีรายงานชัดเจนว่ายาตัวนี้เพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง

รายละเอียดอย.แจ้งเรียกเก็บยาออกจากตลาดและถอนทะเบียนยา Sibutramine แล้ว : http://elib.fda.moph.go.th/fulltext2/word/41633/41633.pdf

การศึกษาไซบูทรามีนภายหลัง พบว่า ไซบูทรามีน ทำให้เกิดภาวะไตวาย ผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร มีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดตีบตัน และอาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้

ดังนั้น ในปี 2553 ทางประเทศในยุโรปจึงประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้ยานี้ รวมทั้งในประเทศไทยด้วยที่เรียกเก็บยาที่มีสารไซบูทรามีนออกจากท้องตลาด และยกเลิกทะเบียนยาไซบูทรามีน การพบไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จึงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ที่ผู้ผลิตจงใจหลีกเลี่ยง และแอบใส่ในผลิตภัณฑ์ เพื่อหวังผลลัพท์ที่ดี แต่ไม่คำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพของผู้บริโภคในภายหลัง

อาการที่พบ หลังทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไซบูทรามีน
- ปากแห้ง
- รับรู้ถึงรสชาติที่แปลกๆ แปร่งๆ ลิ้น
- คลื่นไส้ หรืออาเจียน
- ท้องผูก
- นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท กระสับกระส่าย
- วิงเวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะ
- ปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามแขน ขา ตัว และตามข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย

อาการที่พบหลังบริโภคไซบูทรามีนไปนานๆ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เกิดภาพหลอน หรืออาการที่เกี่ยวข้องกับจิตประสาท
- เกิดภาวะไตวาย
- ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ
- มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดตีบตัน


ยา Fenfluramine และ Dexfenfluramine
เป็นยาที่ทำให้สารซีโรโตนินเพิ่มขึ้นในร่างกาย  มีผลให้ไม่อยากอาหาร  ซึ่งยาตัวนี้ถูกถอนทะเบียนแล้วเนื่องจากพบว่าทำให้หัวใจผิดปกติและเกิดโรคหัวใจหลายโรค http://drug.fda.moph.go.th/zone_law/files/law010_detail_043_law.asp


ยา ไม่ใช่ขนม  ถ้านำมาแอบใส่ในผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนย่อมมีอันตรายทั้งสิ้น  คนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ควรดูดีๆ  เพราะมันไม่คุ้มกันเลยถ้ากินแล้วนอนตาย หลับสบายไปถึงชาติหน้า


ที่มาสมาชิกผู้ใช้พันทิป : Mr.หมาน้อย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์