เคลียร์สารพิษเพื่อพิชิตไขมัน


เคลียร์สารพิษเพื่อพิชิตไขมัน

เอาล่ะ ! วันนี้หมอหล่อคอเล่า มีอีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ที่ใกล้ตัวแต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาเล่าให้ฟังครับ อย่างที่เรารู้กันดีแล้วว่าโรคอ้วนมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยเหมือนที่หมอเคยเล่าให้ฟังมาบ่อย ๆ หนึ่งในนั้น คือ #สารพิษ (Toxins) ที่สะสมในร่างกาย เช่น สารพิษจากยาปราบศัตรูพืชต่างๆ เช่น ย่าฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี รวมไปถึงโลหะหนักต่าง ๆ ซึ่งเราได้รับเข้ามาจากอาหารการกิน น้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (Skin care products & Cosmetics) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning products) และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา (general environments)

 #เซลล์ไขมัน (Fat cells or Adipocytes) เป็นเซลล์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่พิเศษ คือ จะดักจับเอาสารพิษเหล่านี้ไว้ในเซลล์ เนื่องจากสารพิษส่วนใหญ่มีคุณสมบัติละลายได้ดีในไขมัน (Fat-soluble toxins) ทำให้เซลล์ไขมันเป็นแหล่งเก็บสารพิษที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้หมดนั้นเอง เท่ากับว่า ไขมันในร่างกายของเราทำหน้าที่อันสำคัญยิ่ง เพราะจะคอยสะกัดกั้นเหล่าสารพิษที่อยู่ในร่างกาย ไม่ให้ทำร้ายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของเรานั้นเองครับ (เราเรียกหรูๆว่า Protective buffer toxins)

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซลล์ไขมันต้องแบกรับภาระที่หนักจนเกินไปจากเจ้าสารพิษที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เซลล์ไขมันได้รับอันตราย หรือ ถูกทำลายซ่ะเอง (Damaged fat cells) สิ่งที่ตามมาก็คือ สารพิษเหล่านี้จะออกมาทำลายเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายของเรามากขึ้น เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น เกิดการอักเสบแบบเรื้อรังมากขึ้น (ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วนจากที่เคยเล่าให้ฟังมาแล้ว) กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ไขมันขึ้นมาอีกมากขึ้น (New fat cells) ทำให้ยิ่งอ้วนไปกันใหญ่ และสารพิษบางตัวยังไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น 

(1) - #รบกวนการทำงานของไทรอยด์ฮอร์โมน (FT3) ระบบการเผาผลาญในร่างกายจึงลดลง กินเข้าไปนิดเดียวก็อ้วนง่าย เป็นต้น
(2) - #ไปทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนในร่างกายของเราซ่ะเอง เช่น ฮอร์โมนเพศ (เอสโตรเจน เทสโทสเทอโรน เป็นต้น) หรือบางครั้งเราเรียกชื่อสารพิษกลุ่มนี้ว่า Endocrine disruptors ตัวที่เราพอคุ้นหู คือ #Xenoestrogens นั่นเองครับ ผลเสียคือ ร่างกายจะมีอาการเสมือนขาดฮอร์โมน ในขณะเดียวกันก็มีอาการผิดปกติจากผลของการกระตุ้นอวัยวะต่าง ๆ มากเกินไป เช่น เกิดเนื้องอกในบริเวณมดลูก รังไข่ เต้านม เป็นต้น

ได้ฟังแบบนี้แล้ว คงพอทำให้เราพอเห็นภาพกันแล้วนะครับ ว่า #ทำไมการลดความอ้วนจำเป็นจะต้องเคลียร์เจ้าสารพิษต่าง ออกไปก่อน เพราะ หากเราไม่ได้สนใจเรื่องการลดสารพิษสะสมเหล่านี้ ในระหว่างที่เราลดน้ำหนัก ลดไขมัน ร่างกายของเราก็จะมีปริมาณสารพิษที่ออกมามากขึ้น (เพราะไม่มีเซลล์ไขมันให้อยู่) ท้ายที่สุดก็จะเกิดเซลล์ไขมันใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมาย (เกิด Rebound หรือ Yo yo effect) นั่นเอง

"เคลียร์สารพิษเพื่อพิชิตไขมัน" - จึงเป็นอีกหนึ่ง #คอนเซปต์หลักของการวางแผนลดไขมันในยุค2016 ยุคที่การดูแลเรื่องโรคอ้วนต้องเข้าใจให้ลึกวึ้งมากขึ้นและดูแลมากกว่าเรื่องของโภชนาการและการออกกำลังกาย ปัจจุบันเรามีหลากหลายวิธีในการลดปริมาณสารพิษสะสมในร่างกายนะครับ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ควรได้รับคำปรึกษา การตรวจร่างกายโดยเเพทย์ที่ดูแลรักษาโรคอ้วนโดยตรง (เพราะมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก และการวางแผนการรักษาแบบองค์รวม) และตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็นก่อนเสมอ เพื่อให้การลดไขมัน การควบคุมน้ำหนักของตัวเราเองประสบผลสำเร็จและมีสุขภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีนั่นเองครับ


เอาล่ะ ! วันนี้หมอหล่อคอเล่า มีอีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ที่ใกล้ตัวแต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาเล่าให้ฟังครับ อย่างที่เรารู้กันดีแล้วว่าโรคอ้วนมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยเหมือนที่หมอเคยเล่าให้ฟังมาบ่อย ๆ หนึ่งในนั้น คือ #สารพิษ (Toxins) ที่สะสมในร่างกาย เช่น สารพิษจากยาปราบศัตรูพืชต่างๆเช่น ย่าฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี รวมไปถึงโลหะหนักต่าง ๆ ซึ่งเราได้รับเข้ามาจากอาหารการกิน น้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (Skin care products & Cosmetics)ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (Cleaning products) และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา (general environments)

 #เซลล์ไขมัน (Fat cells or Adipocytes) เป็นเซลล์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่พิเศษ คือ จะดักจับเอาสารพิษเหล่านี้ไว้ในเซลล์ เนื่องจากสารพิษส่วนใหญ่มีคุณสมบัติละลายได้ดีในไขมัน (Fat-soluble toxins) ทำให้เซลล์ไขมันเป็นแหล่งเก็บสารพิษที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้หมดนั้นเอง เท่ากับว่า ไขมันในร่างกายของเราทำหน้าที่อันสำคัญยิ่ง เพราะจะคอยสะกัดกั้นเหล่าสารพิษที่อยู่ในร่างกาย ไม่ให้ทำร้ายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของเรานั้นเองครับ (เราเรียกหรูๆว่า Protective buffer toxins)

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซลล์ไขมันต้องแบกรับภาระที่หนักจนเกินไปจากเจ้าสารพิษที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เซลล์ไขมันได้รับอันตราย หรือ ถูกทำลายซ่ะเอง (Damaged fat cells) สิ่งที่ตามมาก็คือ สารพิษเหล่านี้จะออกมาทำลายเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายของเรามากขึ้น เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น เกิดการอักเสบแบบเรื้อรังมากขึ้น (ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วนจากที่เคยเล่าให้ฟังมาแล้ว)กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ไขมันขึ้นมาอีกมากขึ้น (New fat cells) ทำให้ยิ่งอ้วนไปกันใหญ่ และสารพิษบางตัวยังไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น 

(1) - #รบกวนการทำงานของไทรอยด์ฮอร์โมน (FT3) ระบบการเผาผลาญในร่างกายจึงลดลง กินเข้าไปนิดเดียวก็อ้วนง่าย เป็นต้น
(2) - #ไปทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนในร่างกายของเราซ่ะเอง เช่น ฮอร์โมนเพศ (เอสโตรเจน เทสโทสเทอโรน เป็นต้น) หรือบางครั้งเราเรียกชื่อสารพิษกลุ่มนี้ว่า Endocrine disruptors ตัวที่เราพอคุ้นหู คือ #Xenoestrogens นั่นเองครับ ผลเสียคือ ร่างกายจะมีอาการเสมือนขาดฮอร์โมน ในขณะเดียวกันก็มีอาการผิดปกติจากผลของการกระตุ้นอวัยวะต่าง ๆ มากเกินไป เช่น เกิดเนื้องอกในบริเวณมดลูก รังไข่ เต้านม เป็นต้น

ได้ฟังแบบนี้แล้ว คงพอทำให้เราพอเห็นภาพกันแล้วนะครับ ว่า #ทำไมการลดความอ้วนจำเป็นจะต้องเคลียร์เจ้าสารพิษต่าง ออกไปก่อน เพราะ หากเราไม่ได้สนใจเรื่องการลดสารพิษสะสมเหล่านี้ ในระหว่างที่เราลดน้ำหนัก ลดไขมัน ร่างกายของเราก็จะมีปริมาณสารพิษที่ออกมามากขึ้น(เพราะไม่มีเซลล์ไขมันให้อยู่) ท้ายที่สุดก็จะเกิดเซลล์ไขมันใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมาย (เกิด Rebound หรือ Yo yo effect) นั่นเอง

"เคลียร์สารพิษเพื่อพิชิตไขมัน" - จึงเป็นอีกหนึ่ง #คอนเซปต์หลักของการวางแผนลดไขมันในยุค2016 ยุคที่การดูแลเรื่องโรคอ้วนต้องเข้าใจให้ลึกวึ้งมากขึ้นและดูแลมากกว่าเรื่องของโภชนาการและการออกกำลังกาย ปัจจุบันเรามีหลากหลายวิธีในการลดปริมาณสารพิษสะสมในร่างกายนะครับ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ควรได้รับคำปรึกษา การตรวจร่างกายโดยเเพทย์ที่ดูแลรักษาโรคอ้วนโดยตรง (เพราะมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก และการวางแผนการรักษาแบบองค์รวม) และตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็นก่อนเสมอ เพื่อให้การลดไขมัน การควบคุมน้ำหนักของตัวเราเองประสบผลสำเร็จและมีสุขภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีนั่นเองครับ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี อัมรินทร์TV


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์