เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

การเลือกทานอาหารมื้อเย็น ถือได้ว่าเป็นมื้อที่สำคัญไม่แพ้มื้ออื่นๆ ถ้าหากไม่อยากอ้วนเหมือนโอ่งเดินได้ล่ะก็..อย่ากินอาหารเหล่านี้เด็ดขาดค่ะ แล้วจะมีอาหารประเภทไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่านะค่ะ

เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

1. อาหารรสเผ็ด

หลายคนคงชอบทานอาหารรสจัดจ้าน แต่หยุดทานเถอะค่ะ ไม่งั้นคงได้เป็นหมูแน่ๆค่ะ เพราะการรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเผ็ดแซ่บแบบนี้จะก่อกวนการนอนหลับของเรา และยังทำให้เกิดอาหารจุกเสียดในช่องท้อง ทำให้ระบบการย่อยอาหารมีปัญหา และทำให้มีโอกาสเกิดโรคกรดไหลย้อนได้ด้วยค่ะ ถ้าหากอยากทานจริงๆ ให้ทานก่อนนอน 3 ชั่วโมงค่ะ

เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

2.อาหารมันๆ

อาหารประเภทนี้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าทำให้อ้วนได้ แต่ถ้าหากเลือกทานเป็นมื้ออื่น เช่น มื้อเที่ยง เนื่องจากเราต้องทำงานใช้พลังงานอยู่แล้วทำให้ไม่อ้วนได้ค่ะ แต่ถ้าทานเป็นมื้อเย็น จะทำให้เรารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวเวลานอนและทำให้รู้สึกเอื่อยเฉื่อยเวลาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันถัดไปด้วย

เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

3.อาหารหวานๆ

ในมื้อเย็นหลายคนติดนิสัยอยากจะทานของหวานหลังทานของคาวเสร็จแล้ว หยุดทำแบบนี้เลยนะค่ะ เพราะของหวานจะทำให้เรานอนไม่หลับไม่สนิท และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

4.อาหารเน้นเนื้อสัตว์

บางคนชอบทานอาหารหนักๆในมื้อเย็นกัน โดยเฉพาะอาหารที่มีเนื้อด้วยยิ่งชอบมากเลย แต่รู้หรือไม่ ถ้าหากทานอาหารประเภทเนื้อในมื้อเย็นจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักเกินไป และทำให้เวลานอนไม่สบายตัวอีกด้วยนะค่ะ

เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

5.ขนมขบเคี้ยวต่างๆ

แน่นอนว่าก่อนนอนขณะที่ดูทีวีอยู่ก็อยากได้อะไรมาทานเล่นขณะดูจะทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงหนัง แต่รู้ไหมว่าขนมขบเขี้ยวนั้นส่วนผสมของมันก็มีน้ำตาล จะทำให้อ้วนได้ด้วยเหมือนกัน

เลิกกินอาหาร 5 อย่างนี้ ใน “มื้อเย็น” ถ้าไม่อยากเป็นหมู

ถ้าหากไม่อยากอ้วนแล้วล่ะก็..หยุดทานอาหารเหล่านี้เลยนะค่ะ และหลายคนคงคิดว่าอดอาหารมื้อเย็นไปเลยดีกว่าจะได้ไม่อ้วน นั้นเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ เพราะจะทำให้หิวจนนอนไม่หลับและทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ แล้วส่งผลให้ทานเยอะในอาหารมื้อต่อไปอีกด้วย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์