อิ่มอร่อย ไม่ทรมาน! แจกสูตรไดเอทง่ายๆ แค่กินกล้วยกับนม 4 วัน ลดได้สูงสุด 4 กก.
แถ่น- แทน- แท๊น!! ไม่ต้องไปล้วงคอ อดอาหารใดๆ ให้หลอดอาหารพังนะคะซิส เพราะวันนี้เรามีสูตรไดเอทชิคๆ มานำเสนอ อิ่ม อร่อย ไม่ทรมาน แถมวัตถุดิบไม่แพง หาซื้อง่าย ง่ายกว่านี้ก็ดื่มแค่น้ำเปล่าแล้วเด้อ กับสูตรกิน ‘กล้วยกับนม' หรือ Banana and Milk Diet แค่กินตามสูตรนี้ 4 วัน ก็ลดน้ำหนักได้สูงสุดถึง 4 กิโลกรัม เลยล่ะค่ะซิส!
สูตรนี้ไม่ไก่กานาจา เพราะถูกคิดค้นโดย Dr. George Harrop ในปี 1934 เพื่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งในปัจจุบัน กลายเป็นสูตรสุดฮิตของสาวๆ ที่ต้องลดน้ำหนักในเวลาสั้นๆ เช่น ดารา นางแบบ แต่ขอให้จำไว้ว่า ห้ามทำนานเกินกว่า 4 วันเด้อ ไม่งั้นร่างกายพัง มันเป็นวิธีลดด่วนเท่านั้น!! ถ้าเข้าใจจุดนี้แล้ว ก็เลื่อนลงมาอ่านต่อได้เลย
‘กล้วย + นม' ทำให้ผอมลงได้ยังไง?
สูตรไดเอท ‘กินกล้วยกับนม (Banana and Milk Diet )' ได้แนวคิดมาจากการลดน้ำหนักแบบจำกัดแคลอรี่ต่ำ แต่ได้สารอาหารสูง ช่วยขจัดไขมันสะสมในร่างกายได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง! แค่กินกล้วย 2-3 ผล คู่กับนมจืด Full-Fat 2-3 ถ้วย ต่อเนื่องกัน 3 มื้อ/ วัน (แค่คิดก็เอียนแล้ว... )
กล้วยขนาดปกติ 1 ผล จะให้พลังงานประมาณ 100 แคลอรี่ ในขณะที่นมจืด 1 แก้ว ให้พลังงานไม่เกิน 80 แคลอรี่เท่านั้น!
ดังนั้น ถึงจะกินต่อเนื่องทั้ง 3 มื้อ เธอก็ได้รับพลังงานแต่ละวันไม่เกิน 1000 แคล ซึ่งต่ำกว่าค่า TDEE หรือปริมาณพลังงานที่ใช้ทั้งหมดในแต่ละวันค่ะ
ที่เราแนะนำเป็นนมแบบ full-fat หรือแบบมีไขมัน ไม่เอา low-fat หรือไขมัน 0% เพราะมีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า นมสดปกตินี่แหละ ช่วยลดน้ำหนักได้ดีที่สุด เพราะมีไขมันให้อิ่มท้อง แนวโน้มจะตบะแตกก็น้อยกว่า! ไม่มีกฎว่าต้องกินกล้วยตอนไหน จะก่อน-หลังดื่มนม หรือจะปั่นรวมกันเลยก็ได้!!
ในสูตรนี้เธอยังสามารถกินอาหารคลีนอื่นๆ ที่มีไฟเบอร์และโปรตีนสูง เช่น กรีกโยเกิร์ต ถั่วอัลมอนด์ ชาเขียว ได้เล็กน้อย เพื่อให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ระบบร่างกายทำงานเป็นปกติค่ะ ห้ามลืมเลยเชียว!
สรุปคอนเซ็ปต์ของไดเอทสูตรนี้
> จำกัดแคลอรี่ 1000 แคล/ วัน
> กินกล้วยกับนม 3 มื้อ (ควบคู่กับอาหารคลีนอื่นๆ เล็กน้อย) ต่อเนื่องกัน 4 วัน
> ดื่มน้ำเยอะๆ ให้ผิวชุ่มชื้นตลอดเวลา และขจัดไขมันได้อย่างรวดเร็ว
คราวนี้คำถามของสาวๆ บางคนก็คือ ‘ทำไมต้องเป็นกล้วย?? ไม่ชอบกล้วยอะ กินผลไม้อื่นไม่ได้เหรอ เช่น กีวี่ สตรอว์เบอร์รี่งี้ และนี่คือคำตอบค่ะ
‘กล้วย' ดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง?1.อย่างที่รู้ว่า กล้วยเป็นแหล่งของสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุเยอะที่ถือว่า ครบเครื่องที่สุดแล้วในผลไม้ทั้งหมด! มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ แถมยังมี ‘โพแตสเซียม' สูงสุดๆ ใน 1 ผลจะมีประมาณ 422 มิลลิกรัม ซึ่งทำให้ระบบร่างกายทำงานเป็นปกติค่ะ
2. กล้วย 1 ผล มีไฟเบอร์ 3 กรัม ซึ่งช่วยดีท็อกซ์ของเสียที่สะสมไว้ในร่างกายได้
3. รสหวาน มัน กินง่าย อร่อย อิ่มท้องนาน แค่สาวๆ กินมื้อละ 1-2 ผล ก็อิ่มได้แบบไม่ต้องหาขนมกินจุกจิกอีกเลย
4. แคลอรี่ต่ำมาก ฮิตสุดๆ ในหมู่สาวๆ ที่ต้องไดเอท เช่น ดารานางแบบ หรือคนที่ต้องลดน้ำหนักในเวลาสั้นๆ เพราะกล้วยขนาดกลาง 1 ผล ให้พลังงานประมาณ 105 แคลอรี่เท่านั้น
‘นม' มีคุณค่าต่อร่างกายยังไง?
1. นมจืด เป็นสารอาหารสำคัญที่ควรดื่มในทุกวัน! อุดมไปด้วยแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก และโปรตีนที่เสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง เป็นสาวสตรองที่แท้ทรู
2. ‘แคลเซียม' ในนม ไม่ได้มีดีแค่บำรุงกระดูก แต่ยังช่วยเรื่องการส่งสัญญาณของเซลล์ในร่างกาย, ปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล และควบคุมการทำงานของโปรตีน
3. นมสดแบบ Full-fat หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคอ้วนได้ด้วยนะ
4. นมช่วยลดความดันเลือดให้ต่ำลง ควบคุมการผลิตของอินซูลิน และเร่งระบบเผาผลาญ (เมตาบอลิซึ่ม) ให้สูงขึ้น ทำให้ผอมเร็วขึ้นนั่นเอง
เมื่อกิน ‘กล้วย' กับ ‘นม' รวมกัน จะเกิดอะไรขึ้น?
เมื่อสาวๆ กินกล้วยควบคู่กับนม ก็เหมือนได้กินอาหารแทบจะครบ 5 หมู่รวมกัน ด้วยวัตถุดิบแค่สองอย่างเท่านั้น ทั้งโปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ละลายน้ำ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ต้องกลัวว่าจะวูบระหว่างวัน หรือร่างกายจะเป็นอันตราย เพราะกล้วยกับนม สามารถให้พลังงานได้มากพอที่จะอยู่ได้สบายๆ ถึง 3-4 วัน (แต่ไม่ควรใช้สูตรนี้นานกว่านั้น เพราะจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี! )
ถ้าหมดข้อสงสัยแล้วก็เลื่อนลงมาดู ‘ตัวอย่างแพลนไดเอท' ที่เราเตรียมไว้ให้พวกเธอได้เลยค่า
ตัวอย่าง แพลนไดเอทสูตร ‘กล้วยกับนม' ใน 1 วัน
อันที่จริง ถึงใช้ชื่อสูตรว่ากินแค่ ‘กล้วยกับนม' แต่สาวๆ สามารถกินอาหารคลีนอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยได้นะคะ แต่อาหารหลักให้เน้นกินกล้วยกับนมเท่านั้น จะได้ไม่เบื่อและทำได้จนครบตามเวลาค่ะ เราจัดแพลนมาให้คร่าวๆ แล้ว ว่าเธอต้องกินอะไรบ้างใน 1 วัน โดยจะแบ่งซอยออกเป็น 6 มื้อย่อยๆ กินน้อยแต่กินบ่อย จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้มากกว่า พร้อมแล้วไปดูกัน!
***ในบทความนี้จะใช้วัตถุดิบบางอย่างต่างกับสูตรของต้นฉบับ เพราะบางอย่างไม่มีขายหรือหายากในเมืองไทย ทางเราจึงปรับสูตรใหม่ให้เข้ากับสาวไทยมากขึ้นค่ะ ^^
เช้าตรู่ (6.00-7.30 A.M.)
> น้ำเปล่า 1 ถ้วย, ข้าวโอ๊ตแช่ข้ามคืนในชาม 2 ช้อนชา
มื้อเช้า (7.00- 8.30 A.M.)
> นมสดจืด 1 ถ้วย, กล้วย 1 ผล, ไข่ต้ม 1 ฟอง
มื้อสาย (10.00- 11.00 A.M.)
> ชาเขียว 1 ถ้วย, อัลมอนด์ 2 เมล็ด
มื้อเที่ยง (12.30-1.30 P.M.)
> นมสดจืด 1 ถ้วย, กล้วย 1 ผล
มื้อบ่าย (4.00-4.30 P.M.)
> น้ำผลไม้สกัดเย็น 1 ถ้วย หรือน้ำมะพร้าว 1 ถ้วย
มื้อค่ำ (7.00-7.30 P.M. )
> ผักย่าง 1 ถ้วยเล็ก, กล้วย 1 ผล, นมสดอุ่นๆ 1 ถ้วย
อาหารในตาราง มีประโยชน์ยังไง?
>> มื้อเช้า <<
กรีกโยเกิร์ต : โปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตปกติถึง 2 เท่า คาร์บต่ำ แต่น้ำตาลน้อยกว่า ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โซเดียมต่ำ กินแล้วตัวไม่บวม และยังมีโพรไบโอติกส์ ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วย
น้ำเปล่า : ดื่ม 1 แก้วหลังตื่นนอนทันที จะช่วยรีเซ็ตระบบร่างกายให้สดชื่น ต้อนรับวันใหม่ ช่วยดีท็อกซ์สารพิษในเลือด ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น
ไข่ต้ม + กล้วย + นม : กินรวมกัน จะอิ่มพอดีๆ ในหนึ่งมื้อ ไม่หิวกินจุกจิกระหว่างวัน ร่างกายได้โปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม
ชาเขียว : ต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอยากอาหาร
อัลมอนด์ : มีไขมันดีสูง ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ลดโอกาสเป็นโรคอ้วน
>>มื้อเที่ยง<<
กล้วย + นม : อิ่มท้องนาน แต่แคลอรี่ต่ำ
น้ำผลไม้สกัดเย็น : มีวิตามิน แร่ธาตุและไฟเบอร์ละลายน้ำได้ที่เพียงพอกับร่างกาย
น้ำมะพร้าว : มีสารอิเล็กทรอไลต์ตามธรรมชาติ ดื่มแล้วทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ผิวชุ่มชื้น ดีท็อกซ์สารพิษ
>>มื้อเย็น-ค่ำ<<
ผักย่าง + กล้วย + นม : ไม่ทำให้หิวเร็ว แต่ได้ประโยชน์จากวิตามินในผัก และไม่ตบะแตก กินจุกจิกมื้อดึกค่ะ
ทริคลับ >> ไดเอทให้ได้ผล แค่ทำตามนี้อย่างเคร่งครัด!
1. นอกจากกินอาหารตามสูตรนี้แล้ว ต้องทำควบคู่กับการ ‘ออกกำลังกายแบบเบาๆ' เท่านั้น! อย่าหักโหมไปวิ่ง 2-3 ชั่วโมง ยกเวทหนักๆ หรือออกกำลังแบบ HIIT เด็ดขาด เพราะสูตรนี้ให้พลังงานต่ำมาก เธอมีสิทธิ์เป็นลมหรือกล้ามเนื้อพังได้ แนะนำให้เล่นโยคะ เดินเล่น หรือนั่งสมาธิก็พอค่ะ
2. ไม่กินขนมทุกชนิดที่ใส่น้ำตาลขัดสี, น้ำอัดลม, อาหารและเครื่องดื่มสำเร็จรูป, ของมันของทอด และของกินเล่นที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
3. ถ้าเบื่อกินกล้วยกับนมแยกกัน จะเอามาปั่นรวมกันเป็นสมูทตี้ก็ได้น้า
4. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 3 ลิตรทุกวัน ย้ำว่า ‘ทุกวัน'
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ถ้าเธออดนอน เธอจะหิวง่าย หิวไว มีสิทธิ์ตบะแตกได้เด้อ
ุ6. ช่วงลดน้ำหนัก ไม่ต้องไปสนใจตัวเลขน้ำหนักมาก งดชั่งน้ำหนักไปก่อน เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียด ยิ่งนอยด์ยิ่งไม่ผอม!
7.หยุดไดเอททันที ถ้าเธอรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ ไม่มีแรงใช้ชีวิตประจำวัน หากอาการรุนแรงควรไปปรึกษาแพทย์ (ไม่แนะนำสำหรับคนมีโรคประจำตัวนะคะ)
8. หลังจากไดเอทครบ 4 วัน อย่าหลงดีใจว่าฉันผอมแล้ว ตรงบึ่งไปร้านชาบู หมูกระทะทันทีล่ะ! ให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว ด้วยการกินอาหารคลีนและออกกำลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักเด้งกลับเป็นโยโย่เอฟเฟกต์นะจ๊ะ
คำเตือน : อย่าทำ ถ้ายังไม่ได้อ่าน!!!
โดยทั่วไปแล้ว สูตรไดเอท ‘ กล้วยกับนม ‘ ทุกคนที่อยากลดน้ำหนักเร่งด่วนสามารถทำได้ ไม่มีอันตรายใดๆ หากทำในขอบเขตที่กำหนด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรทำตามคำเตือนดังนี้ค่ะ
1. ในช่วงเริ่มแรก ร่างกายอาจจะอ่อนแอลง แรงที่เคยมีอาจหายไป เพราะเธอลดปริมาณแคลอรี่อาหารลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางคนก็ทนได้ แต่บางคนก็คิดว่าความเพลีย คือความหิว ทำให้ตบะแตกอย่างน่าเสียดาย ขอให้อดทนไว้ก่อน วันที่ 2-3 จะดีขึ้น แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ให้กินข้าวปกติได้ แต่กินแค่มื้อเดียวใน 1 วันนะคะ
2. สาวๆ ไม่ควรทำสูตรนี้ช่วงมีประจำเดือน เพราะอาหารในสูตรขาดแร่ธาตุที่สำคัญเช่น ธาตุเหล็ก ซิงค์ ทองแดง และวิตามินบางชนิดที่ควรกินในช่วงมีเมนส์ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำช่วงนั้นจริงๆ ขอให้กินอาหารเสริมธาตุเหล็กควบคู่ไปด้วย กันเป็นลมหรือวูบด้วยนะคะ!
3. ไม่ควรทำติดต่อกันนานเกิน 4 วัน เพราะร่างกายจะเริ่มขาดสารอาหารอย่างรุนแรง และนำมาสู่ผลเสียอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ผมร่วง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย ฯลฯ แค่สี่วันก็เพียงพอ (ถ้าเธอน้ำหนักเยอะ จะสามารถลดได้สูงสุด 4 กิโลกรัมได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ)
4. ถ้าอยากทำสูตรนี้ซ้ำอีก ให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน มิฉะนั้นผลลัพธ์อาจไม่ดีเหมือนตอนทำครั้งแรก หรือน้ำหนักอาจไม่ลดลงอีกเลยก็เป็นได้
มาถึงบทส่งท้ายแล้ว กับสูตรไดเอทกล้วยกับนม ที่เรามาบอกเธอแบบหมดเปลือก ความว้าวของสูตรนี้อยู่ที่ กินแล้วอิ่มท้องจริง เพราะทั้งกล้วยทั้งนม ทำให้อิ่มท้องสุดๆ แนวโน้มจะลดได้จริงมีสูง (ถ้าไม่เบื่อซะก่อนน่ะนะ - - ) แต่ข้อเสียคือมันก็ไม่ได้ยั่งยืนขนาดนั้น เธอต้องเตรียมใจกับน้ำหนักที่อาจเด้งขึ้นหลัง 4 วันนั้น และผลข้างเคียงจากร่างกาย เช่น ผมร่วง รู้สึกหวิวๆ จะเป็นลม *ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคน*
เอาเป็นว่า เราไม่แนะนำสำหรับคนที่มองหาแพลนลดน้ำหนักในระยะยาวเนอะ ยังไงควบคุมอาหาร + ออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าเธอต้องการลดด่วนจริงๆ และยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมาได้ ก็จัดไปโลด ดีกว่ากินยาลดน้ำหนักแน่นอน ขอให้สาวๆ ทุกคนหุ่นเป๊ะทันใจในงานสำคัญนะจ๊ะ ไปละ บาย