ออกกำลังกายตอนท้องว่าง ช่วยลดไขมันได้ดีกว่าจริงหรอ?

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำแนะนำที่ว่า "ออกกำลังกายตอนท้องว่าง ช่วยลดไขมันได้ดีกว่า" กันใช่มั้ย วันนี้ไปเจองานวิจัยที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการกินหรือไม่กินก่อนออกกำลังกาย ว่ามีผลอะไรกับพลังงานที่ได้รับจากการกินทั้งวัน พลังงานที่ใช้ออกไป และความหิวหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ มาให้อ่านกันในงานวิจัยจะแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม

คือ

1. ไม่มีการกินทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย (FastedEx + NoMeal)
2. ไม่กินก่อนออกกำลังกาย แต่กินหลังออกกำลังกาย (FastedEx + Meal)
3. กินก่อนและหลังออกกำลังกาย (FedEx + Meal)
4. กินก่อนออกกำลังกาย แต่ไม่กินหลังออกกำลังกาย (FedEx + NoMeal)

สรุปผลจากงานวิจัยหลัก ๆ คือ

1. กลุ่มที่ไม่กินทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย อัตราการเผาผลาญพลังงานทั้งวันลดลง และยังกระตุ้นความหิวเพิ่มขึ้น

2. กลุ่มที่กินก่อนและหลังออกกำลังกาย ควบคุมการกินหลังจากออกกำลังกายเสร็จได้ดีกว่า ทำให้ได้รับแคลอรี่น้อยที่สุดใน 4 กลุ่ม
_____________________________

สรุปจากประสบการณ์ตรง

1. การออกกำลังกายตอนท้องว่าง ถึงแม้ว่าจะเพิ่มการใช้ไขมันในระหว่างที่ออกกำลังกายได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยลดไขมันได้ดีกว่า แถมยังมีแนวโน้มให้กินหลังออกกำลังกายเพิ่มขึ้นได้อีก จะเห็นได้จากหลาย ๆ คนที่พยายามอดอาหารแล้วไปออกกำลังกายแล้วอ้วนขึ้น

2. สำหรับนักกีฬา หรือนักวิ่งที่อยากจะฝึกร่างกายให้ใช้ไขมันได้ดีขึ้น การออกกำลังกายตอนท้องว่างในวันที่ออกกำลังกายแบบไม่หนักมากสามารถเอามาใส่ในโปรแกรมการฝึกได้

3. ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายตอนท้องว่างจะช่วยทำให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานในขณะที่ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายถึงว่าร่างกายเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น และหลังจากออกกำลังกายเสร็จ ร่างกายจะใช้ไขมันเป็นพลังงานลดลง

4. การออกกำลังกายตอนท้องว่าง อาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดลง ทำให้ออกแรงได้ไม่เต็มที่ ไม่เหมาะกับการฝึกที่มีความหนักที่เน้นการพัฒนาสมรรถภาพร่างกาย หรือการสร้างกล้ามเนื้อ

5. การลดไขมันด้วยการกินน้อย ๆ และไปออกกำลังกายจึงเป็นข้อผิดพลาดใหญ่หลวงของคนที่อยาดจะมีรูปร่างที่ดี

6. แนวทางการลดไขมันที่ดี คือ การที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น สามารถเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันได้เต็มที่ และควบคุมความหิว/ความอยากอาหารได้ จะทำให้การลดไขมันมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

หวังว่าบทความนี้จะช่วยเราเรามีแนวความคิดต่อการกินและการออกกำลังกายที่ดีเพิ่มขึ้น ช่วยให้แต่ละคนสามารถมีรูปร่างที่ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

เครดิตแหล่งข้อมูล : fit-d