การลดน้ำหนักใน 1 เดือน เป็นเรื่องทีต้องใช้ความพยายามและความอดทนมากกว่าการลดน้ำหนักทั่วไป แม้ว่าเป็นวิธีที่ขัดกับหลักการลดน้ำหนักที่ควรจะค่อยเป็นค่อยไ ปไม่หักโหม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้
ควบคุมปริมาณอาหารไม่เกินวันละ 1,000 แคลอรี่
โดยปกติปริมาณอาหารตามโปรแกรมลดน้ำหนักแบบไม่เร่งด่วนจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 แคลอรี่ แต่สำหรับการลดน้ำหนัก 1 เดือน ต้องควบคุมอย่างเข้มข้นกว่าเดิม จำนวนแคลอรี่จึงถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 1,00 แคลอรี่ เท่านั้นเพราะจากผลการวิจัยพบว่าปริมาณที่เกินจากนั้นจะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกายในรูปของไขมัน ซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ควบคุมประเภทอาหารอย่างเคร่งครัด
การลดน้ำหนัก 1 เดือน จะเข้มงวดกับเมนูอาหารจำพวกของทอด, ของหวาน, น้ำอัดลมหรือของโปรดอื่นใดที่จะทำให้น้ำหนักคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องเน้นทานผักและผลไม้, โปรตีนจากเนื้อสัตว์คือปลาหรืออกไก่ที่ไม่มีไขมันเท่านั้น ควรเพิ่มปริมาณน้ำดื่มในแต่ละวันและควรเป็นน้ำเปล่าแทนน้ำผักและผลไม้
ลดน้ำหนัก 1 เดือน ต้องจัดตารางการกินในแต่ละวัน
เหมือนกับการจัดตารางสอนสมัยนักเรียน คุณต้องจัดตารางการกินจนครบ 7 วัน บางวันอาจจะซ้ำกันได้ โดยมีตัวอย่างง่ายๆ ดังนี้คือ
-วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ มื้อเช้า ทานไข่ต้ม 1ฟองหรือน้ำเต้าหู้ 1 แก้ว, กลางวันทานปลานึ่งหรืออกไก่ต้มพร้อมผลไม้, เย็นทานสลัดผักหรือผลไม้จานเล็กๆ 1 จาน
-วันอังคารและพฤหัสบดี มื้อเช้าทานโยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย, กลางวันทานข้าวกะเพราไก่ 1 จานหรือข้าวครึ่งทัพพี+แกงจืดผัก พร้อมผลไม้เล็กน้อย, เย็นทานยำผักรวมราดน้ำจิ้มรสไม่จัดจานเล็กๆ 1 จาน
-วันเสาร์และอาทิตย์ มื้อเช้าทานต้มจืดไข่น้ำ ชามเล็กๆ , กลางวันทานปลาอบซีอิ๊วราดน้ำจิ้มพร้อมผลไม้เล็กน้อย, เย็นทานส้มตำไทยไม่เผ็ดพร้อมผักเคียงชนิดต่างๆ
เมนูลดน้ำหนัก 1 เดือนเหล่านี้เป็นเพียงไอเดียเริ่มต้นเท่านั้น คุณสามารถเพิ่มเติมหรือดัดแปลงให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของคุณเอง
ทานอาหารแค่พอเริ่มรู้สึกอิ่มเท่านั้น
หากคำนวณเปอร์เซ็นต์การอิ่มอาหารของคุณเท่ากับ 100% การลดน้ำหนัก 1 เดือนเราอนุญาตให้คุณกินได้แค่ 80% ของความอิ่มเท่านั้น ควรทานอาหารมื้อเย็นไม่เกิน 2 ทุ่ม งดของหวานและน้ำหวานทุกชนิดในมื้อเย็น
ตั้งเป้าหมายแล้วไปให้ถึง
การลดน้ำหนัก 1 เดือนจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายที่มั่นคงและแน่วแน่ เช่น ถ้าคุณวางเป้าหมายลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัมใน 1 เดือน เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์คุณจะเห็นได้เลยว่าคุณเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้หรือยังอยู่อีกห่างไกล มันจะเป็นแรงกระตุ้นให้คุณต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยคุณต้องลดแคลอรี่ให้ได้มากถึง 7,000-8,000 แคลอรี่ต่อเดือน นั่นคือเป้าหมายที่คุณต้องไปให้ถึง!
เทคนิค การให้รางวัลและการลงโทษตัวเอง
สมัยเด็กๆ เมื่อเราทำดีคุณพ่อคุณแม่ก็มักจะให้รางวัลด้วยการให้ทานขนมอร่อยๆ หรือให้ของเล่นที่เราอยากได้ แต่ตรงข้ามหากเรางอแงหรือทำข้าวของเสียหายก็จะถูกทำโทษด้วยการตีหรือให้งดของที่โปรดปราน เราสามารถให้เทคนิคตอนเด็กๆ นี้มาช่วยในการลดน้ำหนัก 1 เดือนได้ ทุกครั้งที่คุณทำได้ตามแผนก็ให้รางวัลตัวเอง เช่น ไปดูหนังเรื่องโปรดหรือซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตัวเอง แต่ถ้าเผลอตัวไม่ทำตามแผนก็ให้หักเงินเดือนตัวเองนำไปบริจาคหรือทำบุญ แบบนี้จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย ลดน้ำหนัก 1 เดือน ได้รวดเร็วขึ้น
เข้านอนไม่เกินสี่ทุ่ม
การนอนให้เร็วขึ้นจะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องใช้พลังงานทำให้ไม่รู้สึกหิว ส่วนการนอนดึกจะยิ่งทำให้คุณกินมากขึ้น ยิ่งใครติดนิสัยชอบทำงานตอนกลางคืนเพราะรู้สึกว่าสงบเงียบดี ส่วนใหญ่จะต้องมีขนมนมเนยอยู่ข้างตัวทั้งที่จริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแต่เป็นความเคยชิน หรือใครทำงานที่ต้องเข้ากะดึก เพียงไม่กี่เดือนคุณจะพบว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เพราะส่วนใหญ่หลังเลิกงานจะต้องแวะไปทานโน่นทานนี่กับเพื่อนฝูงเป็นประจำ
ลดความเครียด สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกคืนก่อนนอน
มีผลวิจัยในต่างประเทศว่าความเครียดก่อให้เกิดโรคอ้วนได้ เพราะเมื่อคุณเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า Stress Hormone ซึ่งจะไปกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้เก็บไขมันไว้มากกว่าปกติ เสมือนเป็นกลไกในการปกป้องตัวเอง ดังนั้นการฝึกจิตด้วยการสวดมนต์และนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจคุณผ่อนคลายความเครียดต่างๆ ลง ทำให้เป้าหมายลดน้ำหนัก 1 เดือนของคุณสัมฤทธิ์ผล
จะเห็นว่าการ ลดน้ำหนัก 1 เดือน นั้นต้องใช้วิธีการที่หลากหลายและเข้มข้น อย่างไรก็ดีขอแนะนำให้คุณค่อยๆ วางโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างไม่หักโหมจนเกินไปจะเป็นผลดีต่อร่างกายในระยะยาวมากกว่า
ที่มา : salapanya.com
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
