ประสบการณ์คนคีโต 60 วัน (คลิป)

ผมควรจะเขียนทิ้งท้ายอะไรไว้สักหน่อย หลังจากทำ Keto ครบ 60 วัน 

(แม้ตอนนี้ผมจะไม่เขียนขึ้น facebook แล้ว แต่ผมก็ยังคงกินคีโตต่อไป)

เนื่องจากผมเป็นคนแนะนำหนังสือที่คุณไอซ์เขียนในคอลัมน์

https://www.dailynews.co.th/article/640741

ผมเองก็ควรจะลองทำว่าดีจริงมั้ย ไม่งั้นจะรู้สึกว่าแนะนำคนอ่าน แต่ตัวเองทำไมไม่ทำตาม

เผอิญผมชอบทดลอง แถมดื้อด้วยครับ อะไรที่อ่านในหนังสือและเพจก่อนหน้านี้

ต้องขอลองดูสักที เอาตัวเองทดลองนี่แหละ เวลาดีหรือไม่ดี จะได้บอกและแนะนำกับคนอื่นได้เต็มปาก

ต้องบอกพื้นฐานเดิม ผมลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายและกิน low carb (งดแป้งมื้อเช้าและมื้อเย็น กลางวันกินปกติ)

แต่เรื่องกินผมก็หลุดตลอดแหละครับ เจออะไรอร่อยก็ซัดโฮก บางทีต้องไปรีวิวอาหารก็เพลิน ปาร์ตี้บ้างก็มี หลุดประจำ

จากน้ำหนัก 97 กิโลเหลือ 90 ปริ่มๆ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วนะครับ

ผมลองพยายามจะลดให้น้ำหนักให้ต่ำกว่า 90 กิโลมาครึ่งปี แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

ผมออกกำลังเยอะ เพราะชอบเล่นกีฬา

เช้าออกกำลังกายที่ Flash Fitness (แถวสาทร) 

เป็นฟิตเนสแบบ Circuit Workout แนวหนักๆ โหดๆ แต่ใช้เวลา 30 นาที 3 วันต่อสัปดาห์

เย็นๆ วิ่งกับลูกราวๆ 5-7 กิโล 1-2 วันต่อสัปดาห์ 

วันพุธเล่นบาสที่โรงเรียนลูก วันอาทิตย์ไหนไม่ติดอะไรก็มีก๊วนบาสประจำตอนสายๆ 

พูดง่ายๆ คือ ออกกำลังกาย 4-5 วันต่ออาทิตย์ ถือว่าเยอะ แต่น้ำหนักก็ลงต่อไม่ได้แล้ว

ก่อนเริ่มกินคีโต ผมเริ่มศึกษาทั้งเรื่องของคีโต การใช้แอป MyFitnessPal และลองทำเมนูคีโตบางส่วนเป็นเวลา 2 อาทิตย์

ในขณะเดียวกัน ผมก็ทำการกินของที่อยากกินส่งท้ายไปด้วย (พูดง่ายๆ “ปฏิบัติการล้างตู้เย็น”นั่นเอง)

ปกติผมชอบกินกับข้าวอยู่แล้ว ถ้าจะไม่กินข้าว ไม่มีผลกระทบอะไรมาก

ผมไม่ติดของหวาน เค้ก ขนม พอตัดใจได้ 

แต่ผมชอบกินไอติม เดือนเมษา Swensen’s มีโปรโมชั่น ซื้อ 1 ควอท แถม 1 ควอท

ผมกินคนเดียว 4 ควอทใน 2 อาทิตย์ (บ้าไปแล้ว!! แต่สะใจดีครับ)

ตอนเริ่มก็กำหนดวันเอาแบบง่ายๆ เริ่มวันที่ 1 พ.ค. นี่แหละจำง่ายดี ก็ไล่ไปทีละวัน จะได้รู้ว่ากินคีโตไปกี่วันแล้ว

มาถึงการกินคีโต อุปสรรค ผลกับร่างกาย แบ่งเป็นทีละสัปดาห์แล้วกันนะครับ

แม้จะศึกษาและลองทำมาก่อนแล้ว แต่อาทิตย์แรกก็กินมั่วไปหมดครับ

ซัดหมูสามชั้นเป็นว่าเล่น คงเหมือนๆ กับใครหลายคนที่บอกว่า คีโตกินมันๆ ได้…ผมก็ซัดหมูสามชั้นและแกงเขียวหวานอยู่เป็นอาทิตย์

แถมยังดื้อ เขาบอกว่า 2-3 สัปดาห์แรกอย่าเพิ่งออกกำลังกาย

ผมไม่เชื่อ อยากรู้นักว่าจะเหนื่อยขนาดไหนเชียว ผมใช้ชีวิตทุกอย่างเหมือนเดิม

ออกกำลังกายตั้งแต่วันแรกนี่แหละ ผลคือ “เหนื่อยแทบขาดใจ”

ดีนะ ผมบอกเทรนเนอร์ไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผมจะเริ่มกินคีโต เขาเข้าใจครับ

จากที่ผมเคยเล่น 30 นาที หมดตั้งแต่ 20 นาที

ปกติจะ finisher ด้วย chin-up เคยทำได้ 10 ที ไปได้แค่ 7

วิ่งกับลูก 7 กิโล หมดตั้งแต่ 5 กิโล

เล่นบาสได้ไม่กี่เกมนั่งข้างสนาม เพื่อนร่วมทีมงง ไปทำอะไรมา

เหนื่อยจริง แต่ก็อยากออกกำลัง เพราะรู้ดีว่า ร่างกายเราขาดน้ำตาล มันก็หมดอย่างนี้นี่แหละ

ผมว่า key to success ของวิถีคีโต (หรือถ้าออกจากคีโตไปแล้ว) ผมว่ากินตามโควต้านี่แหละ

รู้ค่า BMR ของตัวเองไว้ กินให้ถึง ไม่ให้ขาด ระบบเผาผลาญจะได้ไม่พัง

วันไหนนิ่งๆ ก็กินให้ถึง วันไหนออกกำลังกายบ้าคลั่งก็กินให้เกินเยอะๆ กับพลังงานที่เสียไป

app.MyFitnessPal โคตรเวิร์คครับ (ผมเคยนินทารุ่นน้องที่เคยลดน้ำหนักแล้วใช้แอปนี้ว่า “เยอะ!!”)

แต่พอใช้เป็น แอปอันนี้นี่แหละตัวควบคุมได้อย่างดี กินอะไรก็คีย์ลงไป 

ไม่งั้นวิถีที่ผมเคยเป็นคือ “ถ้าอร่อยก็จะไม่มีคำว่าหยุด”

ส่วนออกกำลังกายเหมือนเดิม แล้วก็ชั่งน้ำหนัก “เฮ้ย กินคีโตสัปดาห์เดียวลดไป 4 กิโล”

ออกกำลังกายมาครึ่งปีไม่เคยลดเลย แต่พอมาอ่านเพิ่มก็คือ ตัดแป้งน้ำตาล คาร์บมันก็ลด

แล้วคาร์บมันอุ้มน้ำตั้ง 2-3 เท่า พอคาร์บหาย น้ำก็หายไปด้วย “อ๋อ…เผาหลอกนี่เอง” แต่ก็ดีใจมากครับ

แล้วเข้าสัปดาห์ที่ 2 ลมหายใจผมก็มีกลิ่นเหมือนกับที่เขียนในหนังสือ

ถามว่าเหม็นมั้ย? เอาเป็นว่าไม่หอม ไม่กล้าให้ใครดมครับ 555

น้องที่ออกกำลังกายที่ฟิตเนสด้วยกันเอา Keto Stick มาให้ตรวจ

ฉี่แล้วก็จุ่มลงไป มาเลยครับ สีชมพูเข้ม 

แสดงว่าเข้าสู่ภาวะคีโตแล้ว (ผมว่ามันมาตั้งแต่มีกลิ่นที่ลมหายใจแล้วแหละ)

สัปดาห์นี้รู้สึกได้ว่า พลังกลับมาบางส่วนแล้วนะ อึดขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังเหนื่อยง่าย เล่นอะไรที หัวใจจะกระเด็นออกมา

น้ำหนักที่เคยลด 4 กิโล รอบนี้ลดไปแค่จึ๋งเดียว

อ้อ สัปดาห์นี้เป็นตะคริว 1 ครั้งตอนนอนครับ

รีบหาเกลือ 3 ชนิดมากินมาโรยอาหารทันที

แมกนีเซียนี่ต้องกินทุกคืนก่อนนอน

แล้วก็มาสิงอ่านในเพจทุกวัน

เข้ามาอ่านในเพจ เพิ่งรู้ว่าซัดแต่ไขมันอิ่มตัวเยอะเกินไป

เข้าไปศึกษาไขมัน 3 ตัวและจำขึ้นใจ เปลี่ยนเมนูการกินใหม่หมด

น้ำมันมะกอกจากที่เคยซื้อขวดเล็ก ไปถอยขวดใหญ่ เพราะต้องกินทุกมื้อ

และเริ่มชักชวนภรรยามากินคีโตด้วยกัน (จะได้ทำกับข้าวคีโตทีเดียว 555)

น้ำหนักตั้งเป้าไว้ที่ 85 มันทะลุไปที่ 84.9 เลยครับ วูปปี้มากๆ 

แต่ก็มีคำถาม…เฮ้ย ถึงเป้าหมายเร็วไปมั้ย ก้มมองพุงก็ยังอยู่ งั้นลุยต่อ

พลังกำลังเรี่ยวแรงก็เริ่มกลับมาเหมือนก่อน

ครบเดือนผมวัด Body Fat ด้วย Caliper ที่เป็นคีมหนีบตำแหน่งต่างๆ ตัวเลขลดลงหมดจากก่อนกินคีโต

ตำแหน่งหน้าท้องก็ลง แต่ก็มีพุงและมีห่วงยาง

ไปลองวัดกับเครื่องวัดไฟฟ้าราคาเป็นล้าน (ที่เห็นบอกว่าไม่แม่น) ก็ลองครับ เอามันทุกทาง เก็บค่าเอาไว้

สัปดาห์นี้ออกกำลังกายได้เต็มเวลา วิ่งก็จบดี รู้สึกเลยว่าบางวันมัน “ดีด” นะ 

ผมก็คิดว่าตอนนี้ร่างกายคงเริ่มใช้พลังงานไขมันเป็นแล้ว และนี่เริ่ม “เผาจริง เบิร์นจริงล่ะ”

ลืมพูดถึงเรื่องสำคัญ

ใครบอกว่ากินคีโตแล้วท้องผูก ผมไม่เป็นเลย

อาจจะเป็นเพราะปกติท้องเสียบ่อยๆ ตอนนี้กลายเป็นพอดี

ส่วนภรรยา แต่ก่อนท้องผูก

หลังจากกินคีโต กลายเป็นขับถ่ายได้ทุกวัน

ถือว่าเป็นเรื่องดีของเราทั้งสองคน

ผ่านไปเดือนกว่า คนเริ่มทักเรื่องน้ำหนักและหน้าเล็กลง อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว สัดส่วนเริ่มเปลี่ยนครับ

แต่ที่แปลกใจ ไม่รู้ใครเป็นบ้างมั้ย ทักเรื่อง “หน้าใส หน้าเด็ก”

พอทักทีไร ผมก็จะจับหน้า เออ..มันก็มันๆ ชุ่มชื่นดีนะ

ครั้งแรกนึกว่าคงเป็นเพราะครีมกันแดดที่ทาเวลาไปตีกอล์ฟกับลูก

แต่…เอ วันที่ไม่ได้ทา คนก็ยังทัก 

อีกอันที่แปลกครับ สิวมันหลุดเองครับ

สงสัยกินไขมันดีไปดันสิวที่เป็นไขมันอุดตัน ไขมันคงพุ่งไปทั่วร่าง ขึ้นหน้าเลยเนอะ 555

ตั้งแต่กินคีโตมา ผมไม่ป่วยเลยนะ ปกติผมจะเป็นหวัดง่ายมาก นี่ไม่เป็นอะไรเลย

แต่มีอยู่วันลุกแล้ววูบๆ หมดแรงดื้อๆ หยั่งกะคีโตฟลู (แต่ผมไม่เคยเป็นมาก่อนเลย)

ตอนหลังพบว่า คืนก่อนนั้นนอนไป 5 ชม. อีกวันไม่ไหวครับ ร่างกายมันฟ้องทันที

รีบเข้านอนทันที เช้ามาหายสนิท เพราะฉะนั้นเรื่องการพักผ่อนก็ต้องถึง

ผ่านมาขนาดนี้แล้ว จะเรียกว่าเป็นวิถีก็น่าจะได้ 

เหมือนมันรู้แล้วว่าอันไหนควรกิน อันไหนไม่ควรกิน

ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ก็มีวันหลุด 2-3 วัน เพราะต้องไปรีวิวอาหารเพื่อเขียนคอลัมน์ ปาร์ตี้นานๆ ทีกับเพื่อนๆ

แต่พอหลุด อีกวันก็ต้องรีบกลับมา พูดง่ายๆ กินไม่ดี ก็รีบกลับมากินดี

นอนน้อย ก็กลับมานอนให้พอ

อ้อ สัปดาห์นี้ วัดค่า Body Fat ด้วย Caliper อีกรอบ ทุกค่าลด

วัดด้วยเครื่องวัดไฟฟ้าก็ลด แต่อันนี้มันดีตรงที่บอกมวลกล้ามเนื้อด้วย มวลกล้ามเนื้อก็หายไปจากเดือนก่อน

ผมขอคำแนะนำจากคุณหนึ่ง Keto Daddy ผมเลยปรับสัดส่วนโปรตีนจาก 20% เพิ่มขึ้นเป็น 25%

สุดท้ายขอฝากไว้ดังนี้ (ถ้าคิดอะไรออก เดี๋ยวมาเขียนเพิ่ม)

- กลั้นใจกินให้เป๊ะ กินให้ถูกต้อง 1 สัปดาห์ คุณจะได้ว้าว…น้ำหนักลดตั้ง 2-4 กิโลจะได้มีกำลังใจไปต่อ

- ไม่จำเป็นต้องรีบออกกำลังกายใน 1-2 อาทิตย์แรกเหมือนผม มันหมดจริงๆ นะ ถ้าอยากจริงๆ ออกเบาๆ พอ

- กลั้นใจกินให้เป๊ะอีก 2-3 สัปดาห์ น้ำหนักตอนนี้มันไม่ไปไหนอย่าเพิ่งท้อ ถ้าพ้นเดือนไปได้ adapted ได้แล้ว เดี๋ยวมันลงอีกรอบ..อดทนเพื่อความสุขข้างหน้าครับ

- น้ำหนักไม่ต้องชั่งบ่อย ไม่ต้องชั่งทุกวัน ไม่งั้นใจมันไปอยู่กับตัวเลขบนตาชั่งมากเกินไปเดี๋ยวเครียด ผมตั้งรางวัลว่าวันไหนไปฟิตเนสครบ 3 วันต่ออาทิตย์ วันสุดท้ายจะได้ชั่งน้ำหนัก แบบนี้มันลุ้นสนุกดี

- ลองตั้งใจทำอะไรจริงจังสักครั้งกันดูเนอะ ผมลองมาหลายวิธี ทำได้แป๊บเดียว ไม่จริงจังก็เลิก แต่ผมว่าวิถีคีโตมันคุ้มค่ากับเวลาและความอดทนที่ลงไป

- ยอมรับว่าอาหารคีโตแพง แค่น้ำมันมะกอกก็แพงกว่าน้ำมันพืชตั้ง 3-4 เท่า แต่ให้คิดว่า ก็ซื้อสิ่งที่ดี กินของดีให้กับร่างกาย แล้วมันไม่ดีเหรอ?

- ผมชอบเครื่องดื่มเย็นๆ โซดานี่ขาดไม่ได้เลยครับ บีบมะนาวใส่เกลือทำเครื่องดื่มเพิ่มพลังเวลาออกกำลังกาย หรือไปปาร์ตี้ ก็ดื่มโซดาเพียว...เฟี้ยวทั้งคืน

- ตอนแรกจะไปเจาะเลือด ดูค่าต่างๆ (เพราะก่อนกินเจาะเก็บค่าไว้แล้ว) แต่คุณไอซ์เตือนว่าอย่าเพิ่งเจาะตอนนี้ รอให้ครบ 6 เดือนก่อน โอเคครับ อีก 4 เดือนเจอกันใหม่ครับ

- ให้ดูที่สัดส่วนของร่างกาย กางเกงผมหลวมทุกตัวแล้ว แต่เผอิญชอบบันทึก เลยให้เจ้าลูกชายถ่ายรูปตั้งแต่วันแรกก่อนเริ่มกินคีโต แล้วก็ถ่ายทุกวันอาทิตย์ตอน 9 โมงเช้า เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง พอลองเอามาเทียบกันทุกอาทิตย์ สัดส่วนลดจริงๆ นะครับ (พุงด้านล่างและห่วงยางก็ต้องลดกันต่อไป)

ป.ล. ด้วยจรรยาบรรณของนักเล่านิทาน ไม่สามารถเปิดเผยหน้าตาได้ เดี๋ยวเด็กๆ ร้องกรี๊ดและวิ่งหนีหมด “ว้าย ผู้ชายโป๊” แต่อยากให้เพื่อนๆ มีกำลังใจครับ 2 เดือนลดไม่มากแค่ 7 กิโล แต่สัดส่วนเปลี่ยนชัดเจน คุ้มที่จะลุยต่อกันมั้ย!!

พร้อมเริ่มกินคีโตกันหรือยังครับ