
ทำไมผ่าตัดกระเพาะ กินน้อย แต่ไม่เกิดโยโย่

ทั้งที่กินน้อยลงมาก แต่ระบบเผาผลาญไม่พัง และถ้ากินเยอะขึ้น กระเพาะกับฮอร์โมนจะกลับมาไหม
หลายคนเข้าใจว่าการผ่าตัดกระเพาะก็คือการทำให้กินน้อย เหมือนไดเอทแบบโหด ๆ แต่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องปริมาณอาหารอย่างเดียว สิ่งที่เปลี่ยนจริงคือกลไกที่ร่างกายใช้ตัดสินใจว่า จะเผาผลาญหรือจะเก็บ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากน้ำหนักลงแรง แต่ไม่โยโย่แบบการลดน้ำหนักทั่วไป
1. ไดเอทคือฝืน แต่ผ่าตัดคือเปลี่ยนระบบสั่งการ
การไดเอททั่วไป ร่างกายรับรู้ชัดว่าคุณอยากกินแต่กำลังห้ามตัวเอง สมองจึงตีความว่าอยู่ในภาวะขาดแคลน สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติคืออัตราเผาผลาญลด กล้ามเนื้อถูกดึงมาใช้ และร่างกายเริ่มเก็บไขมันทุกทางเพื่อความอยู่รอด นี่คือรากของโยโย่
แต่การผ่าตัดกระเพาะไม่ส่งสัญญาณว่าอด ร่างกายรับรู้ว่าอาหารเข้ามาในปริมาณที่เหมาะสมกับระบบใหม่ สมองไม่เปิดโหมดเอาตัวรอด เมตาบอลิซึมจึงไม่ถูกกดเหมือนการอดอาหาร
2. ความหิวลดจริง เพราะฮอร์โมนถูกปรับ ไม่ใช่แค่ใจต้องสู้
การผ่าตัดแบบ Sleeve หรือ Bypass กระทบแหล่งสร้าง Ghrelin ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นความหิวโดยตรง ผลที่เห็นชัดคือความหิวลดลงจริง ไม่โหยเรื้อรัง และไม่ต้องใช้พลังใจฝืนทั้งวัน
นี่ต่างจากการไดเอทที่ยังหิวเหมือนเดิม แต่ต้องทน ซึ่งในระยะยาวร่างกายจะต่อต้านแทบทุกคน
3. น้ำตาลในเลือดนิ่ง พลังงานไม่เหวี่ยง
โยโย่จำนวนมากเริ่มจากน้ำตาลในเลือดแกว่ง อินซูลินสูง แล้วถูกบังคับให้ลดอาหารแบบฉับพลัน หลังผ่าตัด อินซูลินลดลง ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานได้ดีขึ้น พลังงานจึงมาแบบสม่ำเสมอ ไม่ค่อยเกิดอาการหน้ามืด มือสั่น หรือโหยของหวาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มของการหลุดแผน

4. Set point น้ำหนักถูกตั้งใหม่
ร่างกายมนุษย์มีน้ำหนักเป้าหมายที่พยายามรักษาไว้ การไดเอทคือการดึงน้ำหนักออกจากจุดนั้น พอหยุด ร่างกายจะดึงกลับทันที
การผ่าตัดกระเพาะเปลี่ยนทั้งฮอร์โมน อินซูลิน และสัญญาณความหิวพร้อมกัน ทำให้ set point น้ำหนักถูกตั้งใหม่ในระดับที่ต่ำกว่าเดิม น้ำหนักจึงลงแรงและค้าง ไม่เด้งกลับง่าย
5. ไม่เกิดการปิดระบบเผาผลาญแบบการอด
การอดอาหารหนักทำให้ร่างกายลดอัตราเผาผลาญเพื่อประคองชีวิต แต่หลังผ่าตัด ร่างกายไม่รับรู้ว่ากำลังอด เพราะยังได้โปรตีน ได้พลังงานสม่ำเสมอ และไม่มีสัญญาณเครียดจากความหิว ระบบเผาผลาญจึงไม่ถูกปิด

6. แล้วถ้ากินเยอะเข้า กระเพาะจะขยายไหม
คำตอบคือยืดได้ แต่ไม่กลับไปเท่าเดิม หลังผ่าตัดแบบ Sleeve กระเพาะถูกตัดออกถาวรประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่หายไปไม่งอกกลับ สิ่งที่เกิดขึ้นได้คือกระเพาะส่วนที่เหลือยืดตัวตามพฤติกรรมการกิน หากกินจนแน่นซ้ำ ๆ กินเร็ว และกินเกินจุดอิ่มเป็นประจำ ความจุจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในกรอบที่เล็กกว่าก่อนผ่าตัดมาก
พูดให้ชัด มันคือการยืด ไม่ใช่การรีเซ็ตกลับเป็นกระเพาะเดิม
7. ฮอร์โมนหิวจะกลับมาไหม
หลังผ่าตัด ระดับ Ghrelin ลดลงชัดเจนในช่วงแรก ระยะยาวร่างกายสามารถสร้างฮอร์โมนนี้จากบริเวณอื่นได้บ้าง ทำให้บางคนเริ่มรู้สึกหิวมากขึ้นกว่าช่วงแรกหลังผ่า
แต่ระดับฮอร์โมนไม่กลับไปสูงเท่าก่อนผ่าตัด และสัญญาณอิ่มจากลำไส้ส่วนปลายยังทำงานแรงกว่าคนที่ไม่เคยผ่าตัด นี่คือเหตุผลที่หลายคนหิวได้ แต่ไม่หิวแบบควบคุมไม่ได้เหมือนการอดอาหาร
8. ทำไมน้ำหนักถึงกลับในบางคน
ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะกินข้าวเยอะ แต่เพราะรูปแบบการกินที่หลบระบบใหม่ เช่น แคลอรี่เหลว เครื่องดื่มหวาน ของกินที่ไม่ต้องเคี้ยว หรือการจิบทั้งวัน สิ่งเหล่านี้ไม่ทำให้เกิดสัญญาณอิ่ม แต่พลังงานเข้าเต็ม ฮอร์โมนอิ่มไม่ถูกกระตุ้น และ set point ค่อย ๆ ขยับขึ้นโดยไม่รู้ตัว

สรุปแบบตรง ไม่โลกสวย
การผ่าตัดกระเพาะไม่ใช่การกินน้อยแบบฝืนร่างกาย แต่คือการเปลี่ยนภาษาที่ลำไส้ใช้คุยกับสมอง กระเพาะไม่กลับไปเท่าเดิม ฮอร์โมนหิวไม่รีเซ็ตกลับศูนย์ แต่การผ่าตัดก็ไม่ใช่เกราะกันอ้วนถาวร
มันคือการสร้างระบบใหม่ที่ได้เปรียบกว่าเดิมมาก หากใช้ระบบนี้ถูกทาง น้ำหนักจะคุมง่ายกว่าชีวิตก่อนผ่าอย่างชัดเจน แต่ถ้าฝืนระบบ อ้อมสัญญาณอิ่ม ต่อให้ผ่าตัดมาแล้ว ร่างกายก็ยังหาทางสะสมพลังงานได้เหมือนเดิม



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday