
ตีแตกทะลุปรุโปร่งกับ 7 ความเข้าใจผิดเรื่องลดอ้วน ที่ทำให้ไม่ผอมสักที!!



3. กินสลัดเพื่อลดน้ำหนัก
น้อยคนนักที่จะกินสลัดผักสดโดยไม่ราดน้ำสลัด หลายคนชอบราดน้ำสลัดแบบครีมข้นหรือมีส่วนผสมของมายองเนส 2 - 3 ช้อนชาให้พลังงานประมาณ 100 แคลอรี่ หรือมากกว่าข้าวขาว 1 ทัพพี นอกจากน้ำสลัดแล้ว บางคนยังชอบใส่ข้าวโพด เผือก กล้วยตาก แห้ว ฯลฯ ในสลัดจานโปรด หรือไม่พอ กินสลัดแล้วไม่อยู่ท้อง ต้องกินอย่างอื่นเพิ่มทำให้ได้พลังงานมากเกินจนน้ำหนักเพิ่มได้
สลัดที่กินแล้วช่วยให้น้ำหนักลดลง จะต้องประกอบไปด้วย ผักผลไม้พลังงานต่ำที่ให้เส้นใยสูง

4. กินผลไม้ไม่อ้วนหรอก
บางคนเข้าใจว่ากินผลไม้แล้วไม่อ้วน จึงกินมากหรือกินแทนอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แม้จะเป็นน้ำตาลจากผลไม้ แต่ถ้ากินมากก็อ้วนได้ แถมบางชนิดมีน้ำตาลสูงปรี๊ด เช่น กล้วยไข่ เงาะ มะม่วงสุก ลองกอง ลำไย ฯลฯ หากรู้ตัวว่าวันไหนกินผลไม้มาก ควรลดอาหารพวกแป้งและน้ำตาล เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไป
เลือกกินผลไม้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ส้ม ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล ฯลฯ ทุกวัน วันละไม่เกิน 2 ผลเล็กได้ประโยชน์ แถมยังไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม

5. ดื่มเครื่องดื่มรสหวานแทนข้าวหรือขนม
บางคนพอดื่มเครื่องดื่มรสหวานแล้วรู้สึกอิ่มโดยไม่ต้องกินข้าว จึงเข้าใจว่าน่าจะช่วยลดน้ำหนักได้ เครื่องดื่มหลายชนิดให้พลังงานสูงโดยที่เราคาดไม่ถึง เช่น นมรสหวาน 1 กล่อง ให้พลังงานประมาณ 250 kcal ถ้าดื่มวันละ 2 กล่อง ให้พลังงานใกล้เคียงกับกินข้าวไข่เจียว 1 จาน!
ระวัง! เครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ ใส่นม ครีม และน้ำตาล หรือน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้มคั้น น้ำฝรั่ง น้ำอ้อยฯลฯ ให้พลังงานประมาณ 250 - 300 kcal ดื่มวันละ 2 แก้ว ไม่แตกต่างจากการกินข้าวเพิ่มวันละ 1 มื้อ ทำให้น้ำหนักขึ้นเดือนละ 2 - 3 กิโลกรัม
อยากกินของว่างเป็นพวกขนม แนะนำขนมที่กินแล้วอิ่มนาน (แต่ต้องมั่นใจนะว่าไม่หวานมาก) เช่น เต้าทึง วุ้นผลไม้ หรือเฉาก๊วย 1 ถ้วยเล็ก กินเป็นของว่างสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม ลองสิ!

6. แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ
จริงอยู่ที่การแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำจนรู้สึกโหยแล้วกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่สาวๆ บางคนอาจเข้าใจและทำผิดวิธี กลายเป็นกินจุบจิบทั้งวัน แถมยังมีมื้อดึกเพิ่มอีกหนึ่งมื้อ วิธีแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ อย่างถูกต้องคือ เพิ่มจากมื้อหลัก 1 - 2 มื้อ เช่น เลือกมื้อใดมื้อหนึ่งระหว่างมื้อว่างเช้าและมื้อว่างบ่าย หรือจะเพิ่มทั้งสองมื้อนี้ก็ได้
ของว่างที่ไม่ทำให้อ้วน เช่น แอปเปิ้ล ส้ม 1 ผล ถั่ว 1 กำมือ ขนมปังหรือแครกเกอร์โฮลวีตทาแยมบางๆ 1 แผ่น สาหร่ายทะเลอบ 1 ซองเล็ก ชาไม่ใส่น้ำตาล ฯลฯ ข้อควรระวังคือ ไม่กินขณะที่ทำอย่างอื่นไปด้วย เพราะทำให้รู้สึกกินเพลินจนหยุดไม่ได้

7. ออกกำลังกายมากๆ หุ่นจะได้ผอมเพรียว
หลายคนออกกำลังกายทุกวันเพื่อลดน้ำหนัก แต่น้ำหนักกลับไม่ลด ซ้ำยังเพิ่มจากเดิม ถ้าอยากลดน้ำหนัก ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 15 - 20 นาทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ถ้าเราใช้เวลาในการออกกำลังกายสั้นกว่านั้น แทนที่ร่างกายจะดึงไขมันที่สะสมมาใช้ กลับดึงกลูโคสในกระแสเลือดมาใช้แทน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ รู้สึกหิวและกินมากขึ้น ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล แถมบางคนยังคิดว่าขอตามใจปากก่อน เดี๋ยวค่อยไปออกกำลังกายเผาผลาญทีหลัง ก็ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จเช่นกัน
นอกจากนี้การออกกำลังกายมากเกินไปจะให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามคือ แทนที่จะดูสดชื่นแจ่มใส กลับรู้สึกอ่อนเพลียและดูโทรม
แนะนำควรออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวร่างกายต่อเนื่อง เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฯลฯ ควบคู่กับฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อ เช่น ยกเวต ฝึกกายบริหาร ฯลฯ เพื่อลดน้ำหนักและช่วยให้หุ่นเฟิร์ม แถมยังเป็นการลดไขมันในเส้นเลือด และเพิ่มการเผาผลาญ
*เดินเล่น 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 120 kcal
*เต้นรำ 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 300 kcal
*กายบริหาร 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 220 kcal
*ว่ายน้ำ (ขึ้นอยู่กับการออกแรง) 1 ชั่วโมง เผาผลาญ 250 - 650 kcal
เมื่อสาวๆ เข้าใจวิธีลดน้ำหนักแล้ว ก็อย่าลืมปฏิบัติให้ถูกต้องจะได้มีหุ่นผอมเพรียวดังใจหมายสักที

Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday