เมื่อวันที่ฉันได้ ผอม สมดั่งใจ รีวิวการลดน้ำหนักจาก 65 เหลือ 47 ในปัจจุบัน
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ
ดิฉันมีชื่อว่า "แจม" ค่ะ
วันนี้แจมจะมีเล่าเรื่องประสบการณ์ในการดูแลรูปร่างของตนเอง
จาก วัยมัธยม (ม.3) มาจนเรียนจบมหาวิทยาลัยค่ะ
และนอกจากนี้ยังบอกขั้นตอนคร่าวๆ ว่าทำไมแจมถึงผอมได้ มีวิธีการยังไง?
เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านที่ตั้งใจจะลดน้ำหนักนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้ คงจะเป็นประโยชน์ค่ะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า
ก่อนอื่น ขอลงรูปเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกันนะคะ
(สาวๆคนไหนเคยเล่น Jeban อาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วค่ะ ใช่แล้ววว แจมกลับมาแล้วจ้า)
รูปก่อนลด
- การโดน Bully
ในช่วง 8-9 ปีที่แจมน้ำหน้ักขึ้น โดนเพื่อนล้อเยอะมาก (ทุกยุคเลยค่ะ เพื่อนสมัยโรงเรียนยันมหาลัย)
ไม่ว่าจะเป็น "E ช้าง" "อ้วน" "โอ่ง" โอ้โหวว สารพัดจะโดนมาหมด
ที่เจ็บไปกว่านั้น คือจำได้ว่าเคยมีความฝันคือ อยากเป็นแอร์โฮสเตส
แน่นอนค่ะ พูดประโยคนี้ให้ใครฟัง ทุกคนก็จะหัวเราะเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า
"อ้วนขนาดนี้ เครื่องบินตกพอดี" ถามว่าเสียใจมั้ย เสียใจมากค่ะ 555
แต่ตอนนี้ถามว่าโกรธมั้ย ไม่เลย ชิวๆเลยค่ะ ต้องขอขอบคุณเสียงพวกนี้ ที่เป็นแรงกำลังใจให้เรา
ได้มาถึงจุดนี้
- มีความรักค่ะ
ตอนนั้น แอบชอบเพื่อนในคณะที่เรียนด้วยค่ะ เลยคิดจะลดน้ำหนักหลังจากที่อ้วนมาตั้งแต่ ม.3
พึ่งมาคิดได้ตอนปี 2 แอบชอบเขา แล้วก็อยากให้เขาสนใจ สไตล์ น้องน้ำและพี่โชน (สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก )
และหลังจากที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จ ผู้ชายคนนั้นบอกเราผอมลงนะ สวยขึ้นนะ
โอ้ย กรี้ดบ้านแทบแตกค่า หัวเราะD แต่ถามว่าได้คบกันมั้ย? เปล่าเลยจ้า นกเหมือนเดิม 55555 เม่าฝึกจิต
-ต้องทำงาน
ช่วงนั้นแจมเรียน ปี 3 และปิดเทอม ซึ่งอยากหารายได้พิเศษค่ะ เลยไปสมัครร้านไอติมชื่อดังร้านนึง
เจอคนในร้านบอก "อู๊ยย หุ่นแบบนี้กระโปรงแตกพอดี" เอื้อออออเลยจ้าา 5555
- สุขภาพ
แจมปวดท้องอืดทุกวัน รวมไปถึงสุขภาพปวดเข่า สิวอุดตันบนในหน้า
รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ซื้อแล้วใส่ไม่ค่อยได้ ต้องหาซื้อเสื้อผ้าไซส์พิเศษ 5555
แจมเลยมานั่งส่องกระจกว่า "เฮ้ย ไม่ได้ละนะ เราต้องลดน้ำหนักซักที ไม่งั้นโรคถามหาแน่นอน!"
หลังจากนั้น แจมก็เลย ปิดพจนานุกรมของหวาน ของทอด ทั้งหมด แล้วหันมา สายสุขภาพเต็มร้อย
และนี่ล่ะค่ะ คือเหตุผลทั้งหมดว่า ทำไม? แจมถึงต้องลดน้ำหนัก จาก 65 ลงมาเป็น 47 ได้ในปัจจุบันค่ะ ยิ้ม
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ในขั้นแรก แจมต้องขอบอกก่อนว่า แจมไม่ได้เป็นคนรูปร่างอ้วนมาแต่กำเนิดนะคะ
ในช่วงเรียนประถม แม่แจมเองเคยบอกว่า แจมรูปร่างผอม
แต่พอเข้าเรียนช่วงมัธยมต้น ด้วยความที่ว่า โรงเรียนมีของกินเยอะแยะมากมายเหลือเกินค่ะ
ดิฉันก็เลยได้ของรับขวัญจากโรงเรียนนี้คือ น้ำหนักที่เพิ่มมา 9 โลภายในสองปีนั่นเอง! !
.
.
.
ใช่แล้วค่ะ แจมหนัก 45 และกลายเป็น 54 กิโลกรัมนั่นเอง
และต่อมาไม่นาน ขึ้นมัธยมปลาย แจมก็ได้ของขวัญอีกทีนั่นคือ น้ำหนักเพิ่มเป็น 60 กิโลกรัม 55555
(นี่ไม่รวมช่วงมหาวิทยาลัยนะคะ ที่น้ำหนักแจมเพิ่มเป็น 65 อีกที)
และนี่คือรูปที่แจมน้ำหนักขึ้นค่ะ
รูปหายไปเยอะมากค่ะ T T นี่ต้องเปิด social ไปสูบรูปจากเพื่อนมา 5555
ขอเน้นนะคะว่าแจมไม่เคย"กินยาลดความอ้วนหรือกินอาหารเสริม"ทุกชนิด
แล้วก็ไม่รับรีวิวใดๆ ทั้งสิ้นจ้า
เอาล่ะค่ะ ! มีสเต็ปที่มายังไงบ้าง เรามาเริ่มกันที่
1. อาหารการกิน
แรกๆ แจมกินมังสวิรัติค่ะ โดยเน้นกินแกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้ มีคนถามว่า เอ้ะ ? แล้วมันจะดีต่อสุขภาพเหรอ?
เลยต้องรีบเฉลยว่า แจมกินเนื้อเกษตรแทนค่ะ (เคยมีร้านอาหารแถวบ้านทำเจขาย เนื้อเกษตรอร่อยมากก เหมือนได้กินเนื้อจริง)
ถามว่า ทำไมแจมต้องกินมังสวิรัติล่ะ ทำไมไม่ลดแป้ง?
คำตอบคือ แจมขับถ่ายยากค่ะ การกินเนื้อเยอะ ทำให้ย่อยยาก แล้วการขับถ่ายก็ทำงานไม่ปกติ
ต้องขอบอกก่อนว่า การขับถ่าย เป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนักนะคะ
แต่ แต่ ว่า!! ห้ามอดอาหารเด็ดขายเลยค่ะ เน้นค่ะ ห้ามอดอาหาร
กินสามมื้อตามปกติ
แจมจำได้ว่ามีช่วงที่แจมกินอาหารสองมื้อ และมื้อเย็นไม่กินอะไรเลย
/ ตัดภาพมา แจมนั่งกินมาม่าสองห่อตอนเที่ยงคืน T_T โอ้ยเจ็บปวดใจมากค่ะ 5555
แต่แจมเลือกที่จะกิน คอนเฟล็ก(ที่เป็นรูปไก่ค่ะ) จำชื่อยี่ห้อไม่ได้แล้วว
ผสมกับโยเกิร์ตค่ะ อร่อยมากกกก! ให้อารมณ์เหมือนกินดัชชี่ ทุโทนสมัยเด็กๆ (อุ๊ตาย บอกอายุ 555)
รวมถึงกินผลไม้ควบคู่ไปด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง/แก้วมังกร/มะละกอ/ส้มโอค่ะ
จะบอกว่ากินสามอย่างนี้แล้ว อิ่มแปล้เลยค่ะ นอนตายตาหลับมาก
เพื่อนๆบางคนถ้าถ่ายคล่องอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกินมังก็ได้นะคะ
แต่ขอให้เน้นกินผักผลไม้ดีที่สุดค่ะ เพื่อให้สุขภาพของเราดีขึ้นด้วยนะคะ ^^
และช่วงที่แจมกินมัง ต้องยอมรับเลยค่ะว่า ถ่ายคล่องมาก แล้วพุงก็ลดไปเยอะเลย แต่ก็ยังไม่ผอมค่ะ
เพราะอะไรน่ะเหรอ ? เชิญข้อต่อไปเลยจ้า ยิ้ม
2. การออกกำลังกาย
จำไว้เลยนะคะเพื่อนๆ คนเราหายใจได้ด้วยจมูกฉันใด การผอมได้ก็ต้องออกกำลังกายฉันนั้น
ต้องขอบอกก่อนว่า ช่วงเรียนมหาลัย แจมเรียนอยู่มหาลัยดังย่านนครปฐม ติดกับสนามจันทร์ค่ะ
ซึ่งแถวนั้น มีลานแอโรบิค ที่วิ่ง ฟิตเนส เต็มไปหมดดดด
แจมเลยไปเต้นแอโรบิคเกือบทุกวันหลังเลิกเรียนค่ะ แต่หลังๆ มาแจมขี้เกียจเดินไป
รวมถึงช่วงนั้นโดยขโมยจักรยานด้วย T_T ก็เลยไม่รู้จะไปยังไง
จึงหาคลิปเต้นแอโรบิคเจ๋งๆ เพื่อนแจมแนะนำคลิปนี้มา โอ้วแม่เจ้า มันดีจริงๆค่ะ
ต้องขอกราบขอบพระคุณคนทำคลิปนี้ค่ะ เต้นไปสอง Set ก็เหงื่อท่วมแล้วววววว
(จำได้ว่ามีวันนึงฝืนเต้น จนถึงSet4 นี่นอนกอองกับพื้นเลยค่ะ) มันเหนื่อยและเบิร์นมากจริงๆ ^^
อ้ะๆ อย่าพึ่งขัดกันเลยน้า ว่า จัดฟันมันเกี่ยวอะไรกับการลดน้ำหนัก?
สำหรับแจมเกี่ยวค่ะ เพราะช่วงที่จัดฟันมา ทำให้แจมเลิกขนมไปได้เยอะมากก
เพราะแจมจะเป็นที่กินขนมแล้วเศษจะเข้าไปติดเหล็กบ่อยๆ
บางทีกินจนเหล็กหลุดก็มีนะคะ 5555 เลยทำให้แจมเลิกกินขนมอบกรอบไปได้ชั่วขณะเลยจ้า
สุดท้ายค่ะ
4. การดีท็อกซ์
ฮันแน่ หลายคนสนใจการดีท็อกซ์ล้างพิษ
สำหรับแจมคือการดีท็อกซ์ด้วยน้ำกาแฟค่ะ หรือเรียกว่าการสวนน้ำกาแฟเข้าลำไส้
แล้วถ่ายออกมาค่ะ (แจมชอบทำในช่วงที่ถ่ายไม่ออก โล่งสบายปลอดโปร่งมาก 555)
(หากใครสนใจ แจมจะมาเขียนรีวิวภาคต่อแบบละเอียดนะคะ แต่ตอนนี้ขอพูดถึงการลดน้ำหนักก่อนจ้า)
4 ข้อที่กล่าวมา ทำให้แจมลดน้ำหนักได้จนถึง 45 ในช่วงแรกๆ
แต่ก็ขึ้นมาอีก 2 โล (เนื่องจากไม่ค่อยได้ออกกำลังกายค่ะ)
หลังจากนี้จนถึงปัจจุบัน ก็อยู่ตัวแล้วค่ะ
เอาล่ะ เรามาดูรูปประกอบกัน . . .
ปัจจุบันแจมสุขภาพดีขึ้น ปัญหาปวดเข่า ปวดขา ปวดท้อง
รวมไปถึงการหาเสื้อผ้าใส่ยากก็หมดไปค่ะ
อยากให้ทุกๆคนหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองให้ดียิ่งขึ้นนะคะ
และฝากถึงคนที่เคยโดนล้อในเรื่องรูปร่างค่ะ
"ไม่มีใครทำให้คุณสวยน้อยลงได้ ถ้าคุณไม่เก็บคำพูดของคนอื่นมาแคร์"
Inspiration จากเพลง Beautiful ของ Christina ค่ะ
เชิดหน้า และหันมาดูแลร่างกายของเรากัน
"ความอ้วน" ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย ไม่ใช่ปมด้อย แต่
มันคือ "ปัญหาสุขภาพ" ค่ะ แจมอยากให้มองว่ามันเป็นปัญหาสุขภาพที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ
มากกว่าความสวยความงามนะคะ
สำหรับวันนี้ แจมต้องขอตัวค่ะ
หากมีโอกาสเขียนกระทู้หน้าใหม่ก็ฝากด้วย
ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะคะ