7เคล็ดลับกินขนมปัง แบบสาวญี่ปุ่น อร่อยฟิน และน้ำหนักไม่พุ่ง!
หน้าแรกTeeNee ไม่หมู เคล็ดลับลดความอ้วน 7เคล็ดลับกินขนมปัง แบบสาวญี่ปุ่น อร่อยฟิน และน้ำหนักไม่พุ่ง!
ขนมปัง อาหารโปรดของหลายคนทั่วโลก แต่ขนมปังมักให้พลังงานสูง หากกินมากเกินไปและไม่ถูกเวลาอาจจะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มมาแทนในระหว่างที่กำลังลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เลยขอนำวิธีกินขนมปังที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index : GI) สูง โดยไม่ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นกัน
#1 กินไม่เกิน 13.00 น.
เนื่องจากขนมปังรสหวานมีพลังงานสูงจากส่วนผสมแป้งสาลี นมเนยและน้ำตาล ดังนั้นจึงควรกินครั้งละไม่เกิน 2 ฝ่ามือ และควรกินในช่วงเช้าจนถึงเวลาไม่เกิน 13.00 น. เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี
#2 กินพร้อมกับอาหารที่ให้โปรตีน
กินขนมปังพร้อมกับอาหารที่ให้โปรตีน ได้แก่ ไข่ แฮม ปลาทูน่ากระป๋อง และชีส เป็นต้น จะช่วยเสริมการตั้งเวลานาฬิกาชีวภาพในร่างกายเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
#3 กินพร้อมเครื่องดื่มอุ่น
เครื่องดื่มอุ่น เช่น นม ชา และกาแฟ เป็นต้น จะช่วยเพิ่มอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายซึ่งส่งผลในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดีขึ้น
#4 ค่อยๆ เคี้ยวใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที
ควรเคี้ยวอย่างละเอียด และใช้เวลากินอาหารเช้ารวมถึงขนมปังประมาณ 20 นาที จะช่วยให้รู้สึกอิ่มไวและอิ่มนานแม้จะกินเพียงเล็กน้อย อีกทั้งการเคี้ยวอย่างละเอียดจะช่วยลดภาระการย่อยของระบบทางเดินอาหารด้วย
#5 กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำเป็นมื้อเย็น
หากกินขนมปังที่มีรสหวานในตอนเช้าหรือกลางวัน ก็ควรเลือกกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ หรือโซบะเป็นอาหารมื้อเย็นแทนการกินข้าวขาว
#6 ไม่กินทุกวัน
หาชอบกินขนมปังทุกวัน น้ำตาล และไขมันจากเนยจะส่งให้อ้วนได้ง่ายขึ้น ฉะนั้น กินแต่พอดี และไม่ควรกินทุกวัน
#7 กินผักก่อน
ผักอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร การกินผักก่อนขนมปังจะกดการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้รู้สึกอิ่มนาน ส่งผลให้อ้วนได้ยากกว่าการกินขนมปังเพียงอย่างเดียว
ช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตและน้ำมัน คืออุปสรรคของความผอม อย่างไรก็ดี บางครั้งคนเราจำเป็นต้องกินของหวานเพื่อความสุขทางใจ หากอยากกินขนมปังที่มีรสหวานหรือขนมหวานอื่นๆ โดยไม่ให้ส่งผลเสียต่อกระบวนการลดน้ำหนักก็ลองกินตามคำแนะนำข้างต้นดูนะคะ
#1 กินไม่เกิน 13.00 น.
เนื่องจากขนมปังรสหวานมีพลังงานสูงจากส่วนผสมแป้งสาลี นมเนยและน้ำตาล ดังนั้นจึงควรกินครั้งละไม่เกิน 2 ฝ่ามือ และควรกินในช่วงเช้าจนถึงเวลาไม่เกิน 13.00 น. เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี
#2 กินพร้อมกับอาหารที่ให้โปรตีน
กินขนมปังพร้อมกับอาหารที่ให้โปรตีน ได้แก่ ไข่ แฮม ปลาทูน่ากระป๋อง และชีส เป็นต้น จะช่วยเสริมการตั้งเวลานาฬิกาชีวภาพในร่างกายเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
#3 กินพร้อมเครื่องดื่มอุ่น
เครื่องดื่มอุ่น เช่น นม ชา และกาแฟ เป็นต้น จะช่วยเพิ่มอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายซึ่งส่งผลในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดีขึ้น
#4 ค่อยๆ เคี้ยวใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที
ควรเคี้ยวอย่างละเอียด และใช้เวลากินอาหารเช้ารวมถึงขนมปังประมาณ 20 นาที จะช่วยให้รู้สึกอิ่มไวและอิ่มนานแม้จะกินเพียงเล็กน้อย อีกทั้งการเคี้ยวอย่างละเอียดจะช่วยลดภาระการย่อยของระบบทางเดินอาหารด้วย
#5 กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำเป็นมื้อเย็น
หากกินขนมปังที่มีรสหวานในตอนเช้าหรือกลางวัน ก็ควรเลือกกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ หรือโซบะเป็นอาหารมื้อเย็นแทนการกินข้าวขาว
#6 ไม่กินทุกวัน
หาชอบกินขนมปังทุกวัน น้ำตาล และไขมันจากเนยจะส่งให้อ้วนได้ง่ายขึ้น ฉะนั้น กินแต่พอดี และไม่ควรกินทุกวัน
#7 กินผักก่อน
ผักอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร การกินผักก่อนขนมปังจะกดการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้รู้สึกอิ่มนาน ส่งผลให้อ้วนได้ยากกว่าการกินขนมปังเพียงอย่างเดียว
ช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตและน้ำมัน คืออุปสรรคของความผอม อย่างไรก็ดี บางครั้งคนเราจำเป็นต้องกินของหวานเพื่อความสุขทางใจ หากอยากกินขนมปังที่มีรสหวานหรือขนมหวานอื่นๆ โดยไม่ให้ส่งผลเสียต่อกระบวนการลดน้ำหนักก็ลองกินตามคำแนะนำข้างต้นดูนะคะ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น