อดอาหาร ให้ปลอดภัย ได้สุขภาพฟิตเปรี๊ยะ ทำตามได้ ไม่เสี่ยงป่วย

อดอาหาร ให้ปลอดภัย ได้สุขภาพฟิตเปรี๊ยะ ทำตามได้ ไม่เสี่ยงป่วย

อดอาหาร เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่คนควบคุมน้ำหนักกำลังมองหา แต่จะอดอย่างไรให้ปลอดภัยและมีร่างกายที่แข็งแรง วันนี้ เรามีเคล็ดลับและวิธีอดมาฝากค่ะ

ปัจจุบันเหล่าเซเลบริตี้ในสหรัฐอเมริกา เช่น บียอนเซ่, มิแรนดา เคอร์, ฮิวจ์ แจ็กแมน เปิดเผยว่า พวกเขาใช้วิธีอดอาหารเป็นช่วงเวลา (Intermittent Fasting) เพื่อช่วยคงรูปร่างให้ได้สัดส่วนอยู่เสมอ ขณะที่บรรดาวิศวกรคอมพิวเตอร์ในซิลิกอนวัลเลย์ ใช้วิธีนี้ เพื่อช่วยให้สมอง แจ่มใส และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเทรนด์การอดอาหารเป็นช่วงเวลาจะต้องทำอย่างไร มาติดตามรายละเอียดได้เลย

4 TRENDS OF FASTING แนวทางอดอาหารสุดฮิตในสหรัฐอเมริกา
ดร.จอช แอกซ์ อธิบายว่า ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกามีโปรแกรมการอดอาหารเป็นช่วงเวลา ที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่ดาราฮอลลีวู้ดและเหล่าวิศวกรคอมพิวเตอร์ในซิลิกอนวัลเลย์ ดังนี้

• อดวันเว้นวัน (Alternate-Day Fasting) ในรายที่ เพิ่งเริ่มต้นในวันที่อดให้กินอาหารโดยจำกัดปริมาณแคลอรี ไม่เกิน 500 แคลอรี โดยแบ่ง เป็น 3 มื้อ ระหว่างมื้อสามารถดื่มชาสมุนไพรหรือน้ำเปล่าได้ วันต่อมาให้กินอาหารตามปกติ ทำสลับกัน เช่นนี้ไปจนครบ 1 สัปดาห์ ถ้าฝึกจนคุ้นชินแล้ว สามารถงดอาหารในวันที่อดได้โดยดื่มเพียงชาสมุนไพรหรือน้ำเปล่าตลอดวัน

• อดอาหารแบบนักรบ (The Warrior Diet) ในวันที่อดจะกินเฉพาะผักหรือผลไม้และกินอาหารตามปกติในมื้อเย็น โดยใน 1 สัปดาห์สามารถเลือกวันที่อดได้ตามสภาพร่างกาย ช่วงเริ่มต้นแนะนำให้อดวันเว้นวัน เมื่อร่างกายคุ้นชินแล้วให้เพิ่มวันที่อดเป็น 3 และ 5 วันใน 1 สัปดาห์ ส่วน 2 วัน ที่เหลือให้กินอาหารตามปกติ โดยวันแรกกินอาหารมื้อเล็กๆ 2-3 มื้อ ส่วนวันที่ 2 ให้กินอาหาร 3 มื้อตามเดิม

• อดอาหารแบบ 16/8 (16/8 Fasting) ใน 1 วันแบ่งเป็นช่วงเวลาอดอาหาร 16 ชั่วโมง และกินอาหารได้ตามปกติ 8 ชั่วโมง โดยทั่วไปจะใช้วิธีงดอาหารมื้อเย็นและอาหารมื้อเช้า กินเฉพาะอาหารมื้อกลางวัน โดยสามารถดื่มน้ำชาหรือน้ำเปล่าระหว่างวันได้

• อดอาหารแบบ 5 ต่อ 2 (5:2 Diet) ใน 1 สัปดาห์กินอาหารตามปกติ 5 วัน อีก 2 วันให้กินอาหารแบบจำกัดแคลอรี ไม่ให้เกินร้อยละ 25 หรือประมาณ 500 แคลอรี โดยดื่มชาสมุนไพรหรือน้ำเปล่าระหว่างวันได้

อดให้ถูกวิธี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ดร.จอชอธิบายว่า การอดอาหารเป็นช่วงเวลา หากทำอย่างถูกต้องตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้นจะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีข้อมูลจากงานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal Clinical Nutrition ดังนี้

• ลดน้ำหนักและระดับไขมันเลว เมื่อให้คนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน อดอาหารโดยใช้วิธีจำกัดปริมาณแคลอรีให้เหลือเพียงร้อยละ 25 ของความต้องการของร่างกายต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ พบว่า ระดับไขมันในร่างกายลดลงเฉี่ลย ร้อยละ 3 และมีระดับไขมันเลวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลจากการลดระดับคอเลสเตอรอลจะทำให้ร่างกายลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ไปโดยปริยาย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ทั้งนี้ การอดอาหารไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันดีแต่อย่างใด

• เพิ่มระดับโกร๊ธฮอร์โมน กระต้นุการสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน เป็นผลดีต่อผู้ที่ต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ทั้งนี้จะทำให้กล้ามเนื้อชัดเจน (Lean) แต่ไม่โตเหมือนโปรแกรมอาหารที่เน้นกินโปรตีนปริมาณมาก อีกทั้งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงโรคที่เกิดจากความเสื่อมต่างๆ ได้อีกด้วย

• ร่างกายไวต่ออินซูลิน เมื่อร่างกายมีความไวต่อฮอร์โมนอินซูลินมากขึ้น ย่อมเป็นผลดีต่อระบบเผาผลาญ เพราะเป็นการกระตุ้นให้ตับอ่อนสร้างเซลล์ใหม่และทำงานได้ดีขึ้น จึงลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้

• ลดระดับฮอร์โมนเกรลิน เกรลิน (Ghrelin) เป็นฮอร์โมนที่บอกว่า ขณะนี้ร่างกายต้องการอาหารหรือไม่ เมื่อเข้าสู่โปรแกรมอดอาหารในช่วงวันแรก ๆ อาจจะรู้สึกหิวมาก แต่เมื่อผ่านไป 2-3 วัน ร่างกายมีการปรับระดับฮอร์โมนเกรลินให้แม่นยำขึ้น จึงมีผลให้ความอยากอาหารลดลง ในกรณีที่เพิ่งเริ่มอด ให้ดื่มชาสมุนไพรหรือน้ำเปล่าตลอดวันเพื่อช่วยให้รู้สึกสดชื่น โดยแนะนำชาเขียว ชาดำ ชาจีน งดการเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง ถ้าเป็นกลุ่มชาสมุนไพร แนะนำเป็นชาคาโมมายล์ ตะไคร้ มินต์ ใบเตย ซึ่งช่วยให้รู้สึกสงบผ่อนคลายได้อีกด้วย ในกรณีที่มีโรคประจำตัว ก่อนอดอาหารตามโปรแกรมดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง

เครดิตแหล่งข้อมูล : goodlifeupdate.com