ไขข้อสงสัย กินทุเรียน ช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือ?
แม้ว่า "ทุเรียน" จะถือเป็นผลไม้ที่ประกอบด้วยหลายๆ สารอาหารที่มีประโยชน์ แต่สำหรับความเชื่อที่ว่า กินทุเรียนแล้วสามารถส่วนช่วยลดโรค ลดความอ้วน เพราะมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีวิตามินอีสูง จะช่วยป้องกันและรักษามะเร็งต่างๆ
โดยวิธีที่บอกต่อๆ กันมาก็คือ ให้เริ่มกิน ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า (ราวๆ ตีห้า - 7 โมงเช้า) ทานได้ครั้งละไม่เกิน 2-3 พู หรือเท่ากับ 4-6 เม็ด จากนั้นให้ดื่มน้ำอุ่นตาม แต่ต้องงดอาหารเช้า และกินติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน เพราะความร้อนจากสารกำมะถันและเส้นใยในทุเรียนจะไปช่วยชะล้างสิ่งสกปรกภายในลำไส้ เป็นความจริงหรือไม่?
เรื่องนี้ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ เคยให้ข้อมูลชี้แจงไว้ สมัยที่เป็น อธิบดีกรมอนามัย โดยบอกว่า "ทุเรียน" มีสารต่างๆ ไม่ต่างจากผลไม้ทั่วๆ ไป คือ ทุเรียนมีเส้นใยช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ แต่ไม่สามารถกินเพื่อลดความอ้วนได้ เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง โดยเฉลี่ย 1 เม็ด จะมีค่าพลังงานอยู่ที่ 130 กิโลแคลอรี ถ้ากิน 4-6 เม็ดจะให้พลังงาน 520-780 กิโลแคลอรี หรือเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อ
ดังนั้น จากคำตอบของ นพ.วชิระ จึงอาจสรุปที่บอกว่ากินทุเรียนช่วยลดน้ำหนักได้ จึงเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะ ในแง่ของกากใยนั้น ถือว่า กินทุเรียนสามารถช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ แต่ถ้าเทียบกับ "แคลอรี" ที่เป็นของแถมมาด้วยนั้น อาจถือว่า ไม่คุ้มค่ากัน
ทั้งนี้ นพ.วชิระ แนะนำ ว่า ถ้าจะกินทุเรียนเพื่อหวังผลเรื่องระบบขับถ่าย ควรเลือกทานผลไม้ชนิดอื่นที่ให้พลังงานน้อยจะดีกว่า
นอกจากนี้ ในส่วนของ "สารกำมะถัน" ในทุเรียน ที่ถูกอ้างว่า มีส่วนช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในลำไส้นั้น ที่จริงแล้ว เจ้าสารกำมะถันนี้ จุดเด่นคือทำให้ทุเรียนมีกลิ่นแรง แต่ไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าสามารถต้านการอักเสบ หรือฆ่าเชื้อได้