เหตุผลที่ผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี แล้วผอมยาก และเคล็ดลับการลดความอ้วน

ผู้หญิงที่อายุเกินเลข 4 แล้ว เคยเจอปัญหาไหมครับ แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างไรก็ไม่ผอมสักที วันนี้ืที่นี่ดอทคอม มีเคล็ดลับการลดความอ้วนให้ได้ผลกันค่ะ

เหตุผลที่ผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี ผอมยาก

โครงสร้างภายในร่างกายของคนอายุ 40 ปีขึ้นไป จะต่างจากคนที่อายุช่วง 20-30 ปี คนที่ไม่เข้าใจ มุ่งแต่จะควบคุมอาหาร อาจทำให้เกิดการรีบาวด์ขึ้นได้ ดังนั้นต้องระวัง เหตุผลที่ทำให้ผอมยากคือ

1.ระบบการเผาผลาญพื้นฐานลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น

คนเราอายุตั้งแต่ 25 ปีเป็นต้นไป ระบบเผาผลาญพื้นฐานของร่างกายจะค่อยๆ ลดลง
ดังนั้นหากเราไม่ออกกำลังกายเลย หรือยังกินเหมือนตอนอายุ 20-30 ปี ก็จะเกิดไขมันสะสมได้ง่ายและการที่มวลกล้ามเนื้อน้อยลง ส่งผลต่อรูปร่างโดยตรงเกิดเป็นไขมันสะสมตามท้อง หรือแม้แต่คนที่ผอมอยู่แล้ว เมื่ออายุมากขึ้นแรงยืดหยุ่นและแรงตึงของผิวก็จะค่อยๆ หายไปทำให้ผิวหนังหย่อนยาน

2.ฮอร์โมนเพศหญิงแปรปรวน

ฮอร์โมนเพศหญิงแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ ฮอร์โมนโพนเจสเทอโรน (Progesterone) พอเข้าอายุ 40 ปี ฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้จะเสียสมดุล เราก็มักจะได้ยินบ่อยๆ ว่าจะส่งผลต่อการมีลูก หรือถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปก็จะส่งผลในการใช้ชีวิต
นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าการเสียสมดุลของฮอร์โมนทั้งสองนี้ทำให้ผู้หญิงเข้าสู่วัยทองครับ
ไขมันที่เกิดจากการมีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ว่ากันว่า "การกินข้าวแบบฝรั่ง" และ "สารรบกวนฮอร์โมน" (endocrine disrupter) ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมามากเกินไป ทำให้เซลล์ไขมันตื่นตัว และเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนคะ

3.การสะสมเซลลูไลท์

การมีสารพิษตกค้างในร่างกายที่เกิดจากมวลกล้ามเนื้อลดลง ประกอบกับอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเป็นเซลลูไลท์ได้ง่าย โดยเฉพาะรอบท้อง, สะโพก และต้นขา ถ้าเซลลูไลท์ได้ติดตามร่างกายแล้วยากที่จะกำจัดออก เซลลูไลท์จะส่งผมทำให้ร่างกายเย็นและการไหลเวียนของเลือดไม่ค่อยดี ทำให้อ้วนได้ง่าย

4.กินแก้เครียดจากงาน

ว่ากันว่าคนที่อายุช่วง 40 ปีจะมีความเครียดเรื่องงานและครอบครัวมากที่สุด พอเครียดมากๆ หลายคนมักจะกินอย่างบ้าคลั่งเพื่อบำบัดความเครียด ทำให้เกิดไขมันสะสมตามร่างกาย ทำให้อ้วน
การกินไม่ค่อยดีเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ ครอบครัวที่มีลูกแล้ว และมีปัญหาด้านเศรษฐกิจในครอบครัวมักจะต้อง "ประหยัด" และค่าใช้จ่ายที่มักลดลงคือ "ค่าอาหาร" และถ้ายิ่งไม่มีความรู้เรื่องโภชนาการและการลดความอ้วน ก็อาจจะเลือกกินแต่ของถูกที่มีวัตถุดิบที่ทำให้อ้วน
นอกจากนี้เมื่อการกินไม่ดี อาจเกิดปัญหาท้องผูก ทำให้มีของเสียสะสมในร่างกายเกิดเป็นพุงได้ครับ
พฤติกรรมการใช้ชีวิตแย่ลงเพราะปัญหาเรื่องเวลา

ผู้หญิงที่อายุในช่วง 40 ปีนี้ที่ต้องมีหน้าที่ทั้งทำงาน และเลี้ยงลูกส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีเวลาให้ตัวเอง
ผมเข้าใจว่าอาจยุ่งจนไม่มีเวลาลดความอ้วน แต่ถ้าเราปรับเปลี่ยนวิธีคิด และรูปแบบการใช้ชีวิตเราก็พอที่จะหาเวลามาลดความอ้วนได้ และช่วยชะลอวัยได้ด้วย

ข้อควรระวังสำหรับการลดความอ้วนของผู้หญิงช่วงอายุ 40 ปี

การลดปริมาณอาหาร หรือควบคุมปริมาณแคลอรีอย่างสุดโต่งอาจก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าส่งผลดีนะ
นอกจากนี้อาจทำให้ร่างกายเครียด ลดความอ้วนได้ไม่นาน สุดท้ายเกิดการรีบาวด์อ้วนยิ่งกว่าเดิมได้ต้องระวังให้มาก ๆ นอกจากนี้ถ้าน้ำหนักตัวลดอย่างเดียวอาจทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นที่ใบหน้า หรือลำตัว ทำให้ดูแก่กว่าความเป็นจริงด้วย

ในด้านการออกกำลังกายก็เช่นกัน หากออกอย่างหนักเลยในช่วงแรก อาจทำให้ล้มเลิกกลางคันได้ หรืออาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า, หัวเข่า หรือ สะโพกได้ต้องระวัง





เหตุผลที่ผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี แล้วผอมยาก และเคล็ดลับการลดความอ้วน

เคล็ดลับการลดความอ้วนสำหรับผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป

ผอมและสวยด้วยพลังของสารต้านอนุมูลอิสระ

ใครที่อยากผอมด้วย และสวยด้วยจะต้องกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เพียงพอ และเป็นประจำ เมื่ออนุมูลอิสระเข้าไปในเซลล์ของร่างกาย จะเกิดปฏิกิริยา oxidation แล้วไปขัดขวางการทำงานของเซลล์ในร่างกาย

สารอาหารและวัตถุดิบที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ควรนำไปใส่ในอาหาร

• เบต้าแคโรทีน (แครอท, ฟักทอง)
• วิตามิน C (มะนาว, ส้ม, บลอกโคลี, ผักกาดขาวปลี)
• วิตามิน E (อัลมอลด์, ฟักทอง, ปลาซาดีน)
• โพลีฟีนอล (ไวน์แดง, บลูเบอร์รี่, โกโก้, ชาเขียว, แอปเปิ้ล, ถั่วเหลือง)
• ฟลาโวนอย (ผักกาดแก้ว, ตั้งโอ๋, ต้นหอม, ถั่วเหลือง, ขาเชียว)
ทำให้เปลี่ยนเป็นน้ำตาลช้าๆ


การเปลี่ยนเป็นน้ำตาล หรือ glycation เกิดขึ้นจากการที่น้ำตาลที่เรากินเข้าไป ไปจับตัวกับโปรตีนจากอาหารที่เรากินเข้าไปเช่นกัน จากนั้นโปรตีนที่ถูกทำการ glycation ก็จะสะสมไว้ในร่างกาย โดยปกติแล้วโปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แต่โปรตีนที่ผ่านการ glycation แล้วจะต่างออกไป โปรตีนชนิดนี้จะส่งผลให้ผิวหนังและร่างกายแก่เร็ว ผลก็คืออ้วนง่าย และผิวหนังเสื่อมเร็ว น้ำตาลก็เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญอย่างหนึ่ง แต่ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไปก็จะส่งผลเสีย

วิธีกิน 2 ข้อเพื่อลดการเกิด glycation 

1. กินข้าวมื้อหนึ่งอย่างน้อย 20 นาที
เลือดจะส่งน้ำตาลที่เราได้รับจากอาหารที่กินเข้าไป ไปยังสมองเพื่อให้เกิดความรู้สึกอิ่ม กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ถ้าร่างกายค่อยๆ รู้สึกอิ่ม ในระหว่างที่เรากินข้าวไปด้วยก็จะช่วยป้องกันการกันมากเกินไปได้

2. จำกัดของกินที่มีน้ำตาลสูง

หลีกเลี่ยงพวกธัญพืช มัน และของหวานต่างๆ โดยเฉพาะ ข้าวขัดสี, ขนมปังขัดสี, อาหารประเภทเส้น หรือของกินอื่นๆ ที่มีน้ำตาลทรายขาวผสมอยู่มากพร้อมกันงดคาร์โบไฮเดรต หรือกินเพียงครึ่งเดียวในมื้อเย็น

การออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป

กล้ามเนื้อถือเป็นสิ่งที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี ดังนั้นควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ สิ่งที่สำคัญคือควรเริ่มจากการออกกำลังกายที่เบาก่อน ประเภทที่แนะนำคือ ออกกำลังกายทุกส่วนแบบแอโรบิก เช่น เดินต่อเนื่อง 15 นาที หรือว่ายน้ำ, วิ่งเหยาะๆ ก็ได้ครับ พอร่างกายเริ่มชินแล้วก็ให้เพิ่มระยะทาง และเวลาให้มากขึ้นทีละนิด จากนั้นพอร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้น ต่อไปก่อนจะเริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิก ให้ทำ weight training แบบเบาๆ ก่อนจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ดี โดยเฉพาะส่วนท้อง ซึ่งเป็นการเตรียมร่างกายส่วนแกนกลางได้ดี

แต่ถ้าใครที่ออกกำลังกายส่วนท้องไม่ได้ อาจจะเพราะไม่มีเวลาหรืออะไรก็ตามแต่ เพียงแค่เวลานั่งหรือเดิน ให้ฝึกเขม่วท้องไปด้วยก็จะพอช่วยได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม "ความต่อเนื่อง" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เลือกวิธีที่สามารถทำได้จริง ไม่ฝืนเกินไป แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ขอให้ทำสม่ำเสมอ
ถ้าอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า ก็ต้องเริ่มจากความพยายามแม้เพียงน้อยนิดตั้งแต่ตอนนี้


เหตุผลที่ผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี แล้วผอมยาก และเคล็ดลับการลดความอ้วน

ที่มา Beautiful Diet


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์