เดินยังไงให้ผอม? เปิดเคล็ดไม่ลับ เผาผลาญคูณสองน้ำหนักลดฮวบ 13 โล

โดยเทคนิคดังกล่าวเป็นการออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า ซึ่งเหล่าแพทย์เวชศาสตร์การกีฬาก็กำลังอยู่ในระหว่างช่วยหาวิธีการออกแบบลังกายในแบบของเธอด้วยขั้นตอนที่ปลอดภัยที่มากขึ้น

ซึ่งเธอบอกว่าตัวเองไม่ใช่นักวิ่ง และการวิ่งบนลู่วิ่งไม่ได้ผลสำหรับเธอสักเท่าไหร่ แต่แล้วเธอก็ค้นพบวิธีการตั้งค่าลู่วิ่งของเธอ ซึ่งในขณะนั้นลู่วิ่งของเธอสามารถตั้งค่าความชันสูงสุดได้ 12 ระดับ และเธอก็เริ่มใช้ค่าสูงสุดนั้นในการเดิน ด้วยการตั้งค่าไว้ที่ 3 ไมล์ต่อชั่วโมง ให้ความรู้สึกและผลลัพท์ที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมมาก และก่อนหน้านั้นคุณยายก็เคยบอกกับเธอว่า การออกกำลังกายวันละ 30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว นั่นจึงกลายเป็นที่มาของสูตรการออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งของเธอ คือ 12-3-30 นั่นคือ

-เดินบนลู่วิ่งด้วยค่าความชันสูงสุด คือ 12
-ความเร็วระดับ 3
-ใช้เวลา 30 นาที

เดินยังไงให้ผอม? เปิดเคล็ดไม่ลับ เผาผลาญคูณสองน้ำหนักลดฮวบ 13 โล

คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะรู้ดีว่าการบนลู่ที่ระดับความชันสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้นะ จำเป็นต้องมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเดินบนลู่เป็นเวลา 30นาที ในตอนแรกๆ เธอก็สามารถทำได้แค่ 10-20 นาทีเท่านั้น และก็ค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ นอกจากนั้นยังทำให้เธอค้นพบไม่เพียงช่วยให้สุขภาพดี แต่ยังทำให้มีสมาธิและจิตใจแจ่มใสมากขึ้นด้วย เธอจึงชอบการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน แต่ก็จะมีวิธีแบบอื่นทำสลับควบคู่ไปด้วย

หลังจากที่ Lauren Giraldo ได้แชร์วิธีการออกกำลังในแบบฉบับของเธอในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 จนมียอดไลค์มากกว่า 2.5 ล้านไลค์ 12 ล้านวิว เธอบอกว่าการออกกำลังกายของเธอในครั้งนี้ ทำให้เธอลดน้ำหนักไปได้กว่า 13 กิโลกรัมอีกด้วย โดยเธอออกกำลังกายด้วยวิธี 12-3-30 เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม Dr. Dennis Cardone ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาเกี่ยวกับโรคกระดูกและหัวหน้าแผนกเวชศาสตร์การกีฬาเบื้องต้นที่ NYU Langone Health บอกว่านี่ไม่ใช่การออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกคน

คำแนะนำเพิ่มเติมหากคุณอยู่ในวัย 20 ปี ยังเด็กและยังสุขภาพแข็งแรง การออกกำลังกายด้วยการใช้กำลังกล้ามเนื้อมากๆ แบบนี้อาจจะทำได้ แต่หากคุณทำด้วยความเร็วหรือฝืนร่างกายมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ สิ่งที่สำคัญคือ

การใช้ความชันหรือความลาดเอียงในการออกกำลังกายหรือใช้กำลังที่หัวเข่า หลังส่วนล่าง เอ็นร้อยหวาย คือบริเวณที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้มากที่สุด หากคุณทำด้วยความไม่ถูกต้องตามสรีระหรือร่างกายรับไม่ไหว ดังนั้น วิธีที่ปลอดภัยกว่าหากอยากใช้วิธีการออกกำลังกายแบบนี้คือ ให้ค่อยๆ เพิ่มระดับความชันทีละน้อย และอย่าทำทุกวัน ให้สลับไปออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นๆ ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้