ถ้าความร้อนในเมืองไทยวันนี้ช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้ก็คงดี ! บ่ายแก่ ๆ แบบนี้ หมอหล่อฯ ขอนำความรู้เกี่ยวกับการลดน้ำหนักมาฝากเพื่อน ๆ อีกครั้ง คราวนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับแนวทางในการลดน้ำหนักแบบสุขภาพดี ที่ทำแล้วดีต่อกาย ดีต่อใจ ของเราเเน่นอนครับ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลดน้ำหนักหรือดูแลรูปร่างของตัวเองอย่างไรดี ? หมอแนะนำให้อ่านเรื่องเล่าในวันนี้ก่อนนะครับ
เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่า ในปัจจุบันนี้เราถือว่าความอ้วน (Obesity) เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งที่ต้องรักษาเช่นเดียวกับโรคเรื้อรังอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง หรือแม้แต่โรคหัวใจและหลอดเลือด แล้วนะครับ เพราะอะไร ? เพราะโรคอ้วนเป็นต้นตอของโรคต่าง ๆ เหล่านี้นั้นเอง
สำหรับเกณฑ์วินิจฉัยโรคอ้วนในคนไทย เรานิยมใช้ค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index : BMI) ซึ่งคำนวณง่ายมาก ๆ เเค่เอาน้ำหนักเราที่เป็น Kg หารด้วย ความสูงหน่วยเป็นเมตรยกกำลัง 2 หากค่าที่ออกมา มากกว่าหรือเท่ากับ 25 kg/m2 บอกว่า ใครเริ่มอ้วนแล้วนั่นเองครับ (23-24.99 คือ น้ำหนักเกิน ส่วน 18.5 - 22.99 คือ เกณฑ์ปกติ เเต่ถ้าสมส่วนกำลังดีควรประมาณ 20 - 22)
นอกจากนี้ยังอาศัยการวัดเส้นรอบเอว (Waist circumference : WC) และร้อยละของไขมันสะสมในร่างกาย (%Total body fat) ตามที่หมอเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ มาประกอบกันอีกด้วย
หัวใจของการลดน้ำหนัก ได้แก่
[1] การปรับเปลี่ยนแนวทางในการรับประทานอาหารแบบจำกัดแคลอรี่แต่ได้สารอาหารครบ (Nutritional therapy)
[2] การออกกำลังกายที่เหมาะสม (Physical activity)
[3] การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาพ (Behavioral modification) นั่นเอง